แชร์

พระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ พระสมุห์สมบุญ อภิปุณโณ วัดดอนทราย

อัพเดทล่าสุด: 6 มี.ค. 2025
139 ผู้เข้าชม

 พระสมเด็จปรกโพธิ์หลังยันต์สิงห์ พระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ วัดดอนทราย โพธาราม ราชบุรี

โดย...ชายนำ ภาววิมล ...

           เผลอแป๊บเดียว ปี ๒๕๖๕ ผ่านมาแล้วครึ่งปี จะว่าปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าสะพรึงกลัว ก็คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะสัญญาณดี ๆ เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น เชื้อโควิด ๑๙ ซึ่งเคยรุนแรงและทำลายชีวิตคนเป็นจำนวนมาก กำลังกลายเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนไข้หวัดหรือโรคอื่น ๆ ที่เป็นกันได้ทุกคนแต่ไม่รุนแรงและรักษาหาย ไม่ล้มตายเป็นเบือเหมือนเมื่อปีที่แล้ว การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา หากไม่มีดรามาและเล่นนอกระบบจนเละเทะ ทุกคนช่วยกันประคับประคอง เชื่อมั่นว่าปีหน้าฟ้าใหม่ สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นไม่น้อย ไม่ใช่เพราะดวงดาวกำหนด แต่เป็นเพราะบ้านเมืองเราตกต่ำถึงที่สุดแล้ว เป็นหลักสากลที่สรรพสิ่งทั้งหลายมีขึ้นแล้วมีลง มีลงแล้วมีขึ้นตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ อย่างน้อยที่สุด ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คนไทยเรามีความสุขหลายเรื่อง โดยเฉพาะผลการแข่งขันวอลเลย์บอลสาวไทยที่เอาชนะทีมชั้นนำของโลกอย่างจีนและเซอร์เบียได้อย่างสมศักดิ์ศรี หรือแม้กระทั่งดนตรีในสวน ก็เป็นมุมเล็ก ๆ ของคนกลุ่มหนึ่งที่สามารถเสพดนตรีในสวนสาธารณะอย่างมีความสุข มิเพียงกรุงเทพมหานครที่กำลังก้าวเดินไปสู่ความเป็นเมืองแห่งความหวัง ไทยทั้งประเทศก็น่าจะดีขึ้นในไตรมาสที่สองของปี ๒๕๖๖

          ห้วงเวลาที่เมืองไทยเราจำต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ๑๙ และวิกฤตเศรษฐกิจในระหว่างปี ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔ อย่างรุนแรง วัดส่วนหนึ่งเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ตามกำลังที่มีอยู่ วัดใดที่เป็นศูนย์รวมศรัทธาของญาติโยมและ/หรือมีทรัพยากรมาก ย่อมมีความพร้อมในการสงเคราะห์ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนฯ ทั้งจำนวนคนและคุณภาพของงานสงเคราะห์ มากกว่าวัดเล็ก ๆ จำนวนมากที่มีทรัพยากรค่อนข้างจำกัดจำเกลี่ย แต่มากด้วยกุศลเจตนาในการช่วยเหลือสังคม วัดเล็ก ๆ เหล่านี้ เปรียบได้กับเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงสังคมไทยให้อยู่รอดและดำรงอยู่ได้ถึงวันนี้ กลับมายังการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระเครื่องในนิตยสารพระเครื่องพระเกจิฉบับนี้ ขอนำสมาชิกและผู้อ่านที่ติดตามบทความของผู้เฒ่ามาโดยตลอด ไปยังวัดแห่งหนึ่งซึ่งดำเนินโครงการบ้านหลังสุดท้ายในช่วงโควิดแพร่ระบาด โครงการนี้เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มโดยพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ เจ้าอาวาสวัดดอนทราย ต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยมีจุดมุ่งหมายในการสงเคราะห์คนยากจนในอาณาบริเวณใกล้เคียงที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด อุบัติเหตุบนท้องถนน และกรณีอื่น ๆ โดยมีข้อกำหนดว่าผู้เสียชีวิตต้องเป็นคนยากจนไม่มีเงิน วัดดอนทรายให้การสงเคราะห์ด้วยการจัดโลงศพ รถรับส่ง สวดพระอภิธรรมที่วัดดอนทราย ๑ คืน และเผาในวันรุ่งขึ้น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการนี้ เป็นเงินบริจาคจากญาติโยม/ผู้มีจิตศรัทธาที่ทราบข่าวและเดินทางมาร่วมทำบุญกับทางวัดดอนทรายเป็นระยะ

           ว่ากันตามจริง วัดดอนทราย มิใช่วัดเล็ก ๆ ที่ไม่มีคนรู้จักมักคุ้นมาก่อน หลายสิบปีก่อน วัดดอนทราย เป็นวัดที่บรรดาสาวกของเจ้าแม่ตะเคียนทองรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี พระสมุห์สมบุญ อภิปุณโณ เจ้าอาวาสวัดดอนทรายองค์ปัจจุบันเล่าให้ผู้เฒ่าฟังว่า สมัยก่อนคนมากราบไหว้แม่ตะเคียน (ต้นตะเคียน/ศาลแม่ตะเคียน) เป็นจำนวนมาก มาแต่ละครั้ง รถเต็มลานวัดไม่มีที่ว่างเลย ของเซ่นไหว้อุดมสมบูรณ์ไม่เคยขาด วัดดอนทรายได้อานิสงค์และปัจจัยจากคนที่มากราบไหว้แม่ตะเคียน สามารถสร้างอุโบสถสำเร็จลุล่วงในเวลาไม่นานนัก ทั้งยังสร้างอาคารเรียนแม่ตะเคียนอุปถัมภ์ที่โรงเรียนวัดดอนทราย (สุวรรณรัฐราษฎร์อุปถัมภ์) อีกหลังหนึ่ง หลังจากงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตในปี ๒๕๔๔ ชื่อเสียงเกียรติคุณของแม่ตะเคียน วัดดอนทราย ไม่ได้หวือหวาเหมือนแต่ก่อน ลูกศิษย์ของหลวงปู่แป๊ะ สติปญฺโญ ท่านหนึ่งเล่าให้ผู้เฒ่าฟังเมื่อหลายปีก่อนว่า แม่ตะเคียนบอกว่าจะไปช่วยที่อื่นก่อน เมื่อถึงเวลาอันควร จะกลับมาวัดดอนทรายอีกครั้ง แม่ตะเคียนจะกลับมาหรือไม่และกลับมาเมื่อไหร่ ไม่มีใครบอกได้ ทุกวันนี้ วัดดอนทรายยังตระหนักรู้คุณของแม่ตะเคียน บำรุงรักษาต้นตะเคียนและศาลแม่ตะเคียน เจริญพระพุทธมนต์อุทิศส่วนกุศลให้แม่ตะเคียนอย่างต่อเนื่อง และในวันตรุษจีนของทุกปี ชาวบ้านโดยรอบจะมาร่วมกันจัดงานห่มผ้าแม่ตะเคียน

            ด้านประวัติความเป็นมาของวัดดอนทราย ผู้เฒ่ายังไม่สามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวเนื่องกับวัดดอนทรายได้อย่างชัดแจ้ง ทราบเพียงแค่เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุการสร้างในราว ๒๐๐ ปีขึ้นไป ตามข้อมูลซึ่งปรากฏใน
lovethailand.org ที่นำเสนอว่า วัดดอนทรายสร้างขึ้นก่อนปี ๒๓๗๗ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๔๓ เจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนามมี ๓ รูปคือ หลวงพ่อเรือน อินฺทสุณฺโณ, หลวงพ่อเหรียญ สุวณฺณรํสี, พระครูวิมลปัญญานุกูล (แป๊ะ สติปญฺโญ) หากพิจารณาจากอายุโบสถ์หลังเก่าจากคำบอกเล่าของพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ เมื่อวันจันทร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๕ ซึ่งระบุว่าโบสถ์มหาอุดหลังนี้ สร้างในปี ๒๓๗๒ ประกอบกับตำนานตำบลดอนทรายที่เล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อก่อนบริเวณตำบลดอนทราย มีคลองที่เป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้า มีดอนทรายขนาดใหญ่ซึ่งเป็นอาณาบริเวณที่ประชาชนเข้ามาค้าขายและเป็นที่พักอาศัยในยามค่ำคืนของผู้สัญจรไปมา ตอนมาบริเวณดอนทรายแห่งนี้มีบริเวณกว้างขึ้น ชาวบ้านจึงใช้เป็นที่พักอาศัยเป็นประจำเรื่อยมาและพูดกันติดปากว่า ดอนทราย จากข้อมูลดังกล่าว พอจะสันนิษฐานว่าวัดดอนทรายน่าจะสร้างขึ้นในห้วงเวลาที่ชาวบ้านเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอาณาบริเวณนี้ไม่นานนัก

           หลังจากได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว วิถีชีวิตวัดดอนทรายปรับเปลี่ยนไปเป็นความสงบสันโดษตามจริยาวัตรของหลวงปู่แป๊ะ สติปญฺโญ พระสุปฏิปันโนที่สาธุชนกราบไหว้ได้สนิทใจ ภิกษุผู้ดำรงสมณเพศด้วยสติและปัญญา รักสันโดษ ไม่ติดยึดในวัตถุและโลกธรรม ซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย แม้ในบั้นปลายชีวิตของท่าน(๒๕๕๙ - ๒๕๖๓) จะมีการจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลในรูปและนามของท่านหลายรุ่น แต่ก็เป็นไปด้วยแรงศรัทธาของคณะศิษย์ มิได้มาจากความคิดริเริ่มของท่าน ในเรื่องการจัดการกับพระเครื่องและวัตถุมงคลที่คณะศิษย์สร้างถวาย หลวงปู่แป๊ะ สติปญฺโญ ยึดมั่นในแนวปฏิบัติของครูบาอาจารย์ยุคเก่าก่อน ใครอยากได้ต้องเดินทางมาขอบูชาจากท่านที่วัดโดยตรง ไม่มีการตั้งตู้จำหน่ายวัตถุมงคล ไม่มีการจัดส่งวัตถุมงคลทางไปรษณีย์ วิถีปฏิบัติเช่นนี้ ยังสืบทอดมาถึงทุกวันนี้

           หลังจากที่พระครูวิมลปัญญานุกูล (แป๊ะ สติปญฺโญ) ละสังขารไปเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๓ พระสมบุญ อภิปุณโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดอนทรายในขณะนั้น (กำลังสำคัญของหลวงปู่แป๊ะ สติปัญฺโญ ในการบริหารศาสนกิจและพัฒนาวัด) ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อจากหลวงปู่แป๊ะ สติปญฺโญ เมื่อรับตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว พระอธิการสมบุญ อภิปุณฺโณ ได้ดำเนินการพัฒนาวัดดอนทรายด้วยการปรับปรุงอาณาบริเวณโดยรอบวัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น จัดให้มีโครงการบ้านหลังสุดท้ายดังกล่าวข้างต้น ทั้งเป็นกำลังสำคัญในการจัดงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่แป๊ะ สติปญฺโญ จนสำเร็จลุล่วงโดยบริบูรณ์ในวันอาทิตย์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๓

            ในด้านการดำเนินศาสนากิจและสถานะของพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ ผู้เฒ่าเคยสอบถามว่าท่านวางสถานะของตนในลักษณะใด ต้องการเป็นพระนักพัฒนาหรือพระเกจิอาจารย์ ท่านตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่าเป็นพระนักพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับการเจริญพระพุทธมนต์ พยานหลักฐานซึ่งยืนยันคำตอบเรื่องการเจริญพระพุทธมนต์ของท่านคือ การไลฟ์สดการเจริญพระพุทธมนต์ของพระภิกษุวัดดอนทรายใน Facebook ของวัดทุกวัน นอกจากนั้น โพสต์ของวัดดอนทรายมีการเผยแผ่คำสอนดี ๆ มากมาย อาทิ สวดมนต์ให้เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ อโหสิให้เป็นนิสัย หมั่นฝึกใจให้มีกรุณา, สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยาใจ บุญวาสนาเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเองได้ หากไม่มีก็ทำให้มีได้ ที่มีอยู่แล้วก็ทำให้มียิ่งยิ่งขึ้นไป, บุญเป็นอย่างนี้ ลักษณะของบุญ คือ ใจเราดี ใจเรามีความสุข เย็นอกเย็นใจ ไม่ทุกข์ร้อน ไม่วุ่นวาย นี่แหละบุญ, วันที่ชีวิตไม่ขาดทุนคือ วันที่ได้ทำบุญและให้อภัย วันที่ชีวิตได้กำไรคือ วันที่เราได้ตั้งใจทำความดี, จิตใจของเราทำดีเวลาไหน มันก็ดีเวลานั้น ความดีความชั่วไม่ได้ขึ้นอยู่กับฟ้าดิน แต่ขึ้นอยู่กับจิตกับใจกับความประพฤติ, ทำใจให้สบาย ร่างกายก็สบาย แม้จะขาดวัตถุไปมากหรือน้อย ก็ไม่เป็นทุกข์, ศีลเป็นสะพาน ทานเป็นตะเกียง นำเราไปสู่เป้าหมายที่ใสสะอาด ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ผู้ที่ตั้งอยู่ธรรม ย่อมไม่ทำบาป, ยอมอยู่ในกะลาตาเดียวดีกว่ามีตาดั่งสับปะรดที่คอยจับผิดคนกัน, อยู่ให้มีศักดิ์ศรี ดีให้มีคุณค่า บ้าให้มีเหตุผล ทนให้มีเป้าหมาย ถึงแม้ตัวจะตายก็ให้มีคนจำ.

            การจัดสร้างพระเครื่องในนามพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ ในการดำเนินโครงการบ้านหลังสุดท้าย มีญาติโยมและผู้มีจิตศรัทธามาร่วมทำบุญกับพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ อย่างต่อเนื่อง แต่ท่านไม่มีสิ่งใดมอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญกับท่านเลย ผู้เฒ่าจึงขอความอนุเคราะห์จากรองศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ วัฒนา, ดร.พรมณี ขำเลิศ, คุณประสิทธิ์ เพ็งเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่แป๊ะ สติปญฺโญ ในการจัดสร้างพระเครื่องถวายพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญโครงการบ้านหลังสุดท้ายหรือศาสนกิจอื่นใดตามที่ท่านเห็นสมควร เมื่อบุคคลทั้ง ๓ รับเป็นเจ้าภาพในการสร้างพระเครื่องดังกล่าวแล้ว จึงโทรศัพท์ขออนุญาตจัดสร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์หลังยันต์สิงห์เนื้อผงดำกับพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ ทั้งปรึกษาหารือรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งเรียนท่านว่ามีคนแนะนำให้นำไม้ตะเคียนมาเป็นส่วนผสมในการพระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์รุ่นนี้ พระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ บอกว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน กิ่งไม้ตะเคียนตายพรายได้หักลงมา ๖ ท่อน ให้นำกิ่งไม้ตะเคียนทั้ง ๖ ท่อนนี้ไปผสมในเนื้อพระผงสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นนี้ด้วย เหตุการณ์แบบนี้ ก็แปลกดีเหมือนกัน เหมือนแม่ตะเคียนจะรู้ล่วงหน้าและเตรียมกิ่งไม้ไว้ให้

            พระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์หลังยันต์สิงห์เนื้อผงดำ เป็นพระเครื่องรุ่นแรกที่จัดสร้างขึ้นในนามของพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ โดยการถอดพิมพ์จากพระสมเด็จปรกโพธิ์ชินปัญชร พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เหตุที่เลือกวิธีถอดพิมพ์เพราะพระสมเด็จปรกโพธิ์ชินปัญชรเป็นพระพิมพ์สมเด็จขนาดเล็กกะทัดรัดที่มีศิลปะงดงาม ทั้งเป็นชิ้นงานที่ผู้เฒ่าเป็นคนออกแบบเบื้องต้น (Conceptual design) เมื่อสามสิบปีที่แล้ว จึงเป็นสิทธิ์พึงกระทำได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตผู้ใด ที่สำคัญคือการถอดแบบมีข้อดีคือทุ่มเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในการแกะแม่พิมพ์ ในส่วนของยันต์หลังและเนื้อหาในการจัดสร้าง อาศัยเหตุที่เจ้าภาพเป็นศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือที่รู้จักกันในแวดวงนักรัฐศาสตร์ว่า "สิงห์ดำ" จึงเป็นเหตุให้นำสีดำและยันต์สิงห์มาใช้เป็นองค์ประกอบหลักในการจัดสร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นนี้

           ลักษณะ เป็นพระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ที่จัดสร้างขึ้นโดยการถอดพิมพ์ด้านหน้าพระสมเด็จปรกโพธิ์ชินปัญชร พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน อันเป็นพระพิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ที่สร้างขึ้นโดยการล้อศิลปะพระสมเด็จวัดเขาตระเครา ด้านหลังแกะเป็นยันต์สิงห์ ใต้ยันต์เป็นอักษร ๓ แถว แต่แรกกำหนดให้แกะตัวหนังสือแถวแรกเป็น พระอธิการสมบุญ อภิปุณฺโณ แถวสองเป็น วัดดอนทราย โพธาราม ราชบุรี และแถวสามเป็นปีที่สร้างคือ ๒๕๖๕ การดำเนินงานล่วงเลยถึงขั้นเตรียมนำไปถวายพระสมุห์สมบุญ อภิปุณโณ และนำพระสมเด็จปรกโพธิ์ไปถ่ายรูปเพื่อจัดวางในพิธีสมโภช คุณไกรวิชญ์ แจ่มจันทร์เกษม เห็นภาพด้านหลังองค์พระและท้วงติงว่าแกะชื่อวัดผิด แกะผิดไปเป็นวัดดอนหวาย ประกอบกับพระอาจารย์สมบุญ อภิปุณฺโณ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ ฐานานุกรมของพระครูวิสุทธานันทคุณ วัดเขาช่องพราน เจ้าคณะอำเภอโพธาราม จึงให้โรงงานทำใหม่ทั้งหมด ปรับแก้สมณศักดิ์และชื่อวัดให้ถูกต้อง (ไม่ยุบพระที่แกะชื่อวัดผิด เพราะการยุบมีประโยชน์น้อยกว่าการนำพระที่แกะพิมพ์หลังผิดไปถวายวัดและชดเชยเงินส่วนหนึ่งให้ทางโรงงาน)

 


            ขนาด พิมพ์หลังพระอธิการ/ชื่อวัดผิด กว้าง ๑.๕ ซ.ม. ยาว ๒.๔ ซ.ม. หนา ๐.๔๒ ซ.ม. พิมพ์หลังพระสมุห์/ชื่อวัดถูก กว้าง ๑.๔๕ ซ.ม. ยาว ๒.๓ ซ.ม. หนา ๐.๔ ซ.ม.
            วรรณะสีผิว ผิวออกดำด้าน มีมวลสารสีขาวปรากฏประปราย
            เนื้อหามวลสาร ประกอบด้วย ผงพระชำรุดต่าง ๆ จำนวนมาก, มวลสารกว่า ๑,๐๐๐ รายการที่ใช้ในการสร้างพระจตุคามรามเทพ รุ่นมหาเมตตา, มวลสาร/ผงไม้แก่นจันทร์ที่เหลือจากการสร้างพระสังกัจจายน์ซุ้มกอและพระผงรูปเหมือนหลวงปู่แป๊ะ สติปัญโญ, ใบโพธิ์จากวัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง)/ วัดอาวุธวิกสิตาราม, แก่นไม้งิ้วดำ, กิ่งไม้ตะเคียนตายพราย, ไม้กาฝาก, หินภูเขาไฟสีดำ, ผงแร่เขาพรหมชะแง้, ผงแร่เหล็กน้ำพี้, ไหมพรมคลุมศรีษะกันหนาว/จีวร หลวงปู่แป๊ะ สติปัญโญ, น้ำพระพุทธมนต์หลวงพ่อวัดไร่ขิง, น้ำผึ้งเดือนห้า ฯลฯ
            จำนวนการสร้าง พิมพ์หลังพระสมุห์ฯ ๖,๐๐๐ องค์ พิมพ์หลังพระอธิการฯ (ชื่อวัดผิด) ๖,๐๐๐ องค์
            พิธีกรรม จัดพิธีสมโภชที่โบสถ์มหาอุด (หลังเก่า) ในวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๕ ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๗ (กะทิงวัน) เวลา ๑๓.๕๙ น. กาลโยค: อธิบดีฤกษ์ที่ ๑๐ ทลิทโทฤกษ์ (ข). พระภิกษุวัดดอนทรายจำนวน ๗ รูปเจริญพระพุทธมนต์บทธัมมจักกัปปวตนสูตรและพระปริต พระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ เจ้าอาวาสวัดดอนทราย อธิษฐานขอบารมีจากสมเด็จพระบรมศาสดา ตลอดทั้งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในพระบวรพุทธศาสนา โปรดเมตตาเกื้อกูลหนุนเนื่องให้ผู้ที่นำพระสมเด็จปรกโพธิ์หลังยันต์สิงห์ไปสักการะบูชาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการดำเนินชีวิตที่ดี มีความสุขสถาพรจากการใช้ทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบอย่างเป็นสุข


            พลานุภาพ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการดำเนินชีวิตที่ดี มีความสุขสถาพรจากการใช้ทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบอย่างยั่งยืน
            ค่านิยม เป็นพระใหม่ที่ทำพิธีสมโภชฯ เมื่อวันจันทร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๕ ไม่มีการวางตู้จำหน่ายทั้งในวัดและนอกวัด ไม่ได้ทำการตลาดอย่างพระใหม่ทั่วไป ไม่มีการจัดส่งทางไปรษณีย์ ผู้ใดศรัทธาอยากได้ คงต้องเดินทางไปขอรับจากพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณโดยตรง (เป็นไปตามเจตจำนงของหลวงปู่แป๊ะ สติปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนทราย) ทั้งเป็นพระเครื่องที่มีกุศลเจตนาในการมอบเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวใจตามแบบอย่างที่มีมาแต่ครั้งโบราณกาล ค่านิยมในการเล่นหาและสะสมจึงต้องรอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

           สมาชิก/ผู้อ่านท่านใดมีจิตศรัทธาร่วมทำบุญในโครงการบ้านหลังสุดท้ายกับพระสมุห์สมบุญ อภิปุณฺโณ และขอรับพระสมเด็จปรกโพธิ์หลังยันต์สิงห์รุ่นแรกไปสักการะบูชา คงต้องเดินทางไปที่วัดดอนทรายด้วยตนเอง การเดินทางสะดวก วัดอยู่ริมถนนเพชรเกษม ไปจากนครปฐมอยู่ซ้ายมือ เยื้องกับทางเข้าตำบลเจ็ดเสมียน

(บทความเก่าจากนิตยสารพระเครื่องพระเกจิ ปีที่ ๒๘ ฉบับที่ ๓๕๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕ หน้า ๔๘ - ๔๙)


บทความที่เกี่ยวข้อง
เหรียญเกราะเพ็ชร์__1
บทความเก่าว่าด้วยเรื่องความประวัติความเป็นมาและข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญเกราะเพ็ชร วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร ปี ๒๕๐๗ จากนิตยสารพระเครื่องพระเกจิ ฉบับที่ ๓๐๔
23 ก.พ. 2025
หน้าปกบทความ_
บทความเก่าว่าด้วยประวัติความเป็นมาและข้อมูลเกี่ยวกับพระปรกใบมะขามหลวงปู่วิวเียร ฐิตปุญญเถร จากนิตยสารศูนย์พระเครื่อง ฉบับที่ ๑๗๒
21 ก.พ. 2025
หน้าปกบทความเรื่อง_22_เหรียญพระพุทธอนันตคุณ
บทความเก่าจากนิตยสารศูนย์พระเครื่องเรื่องเหรียญพระพุทธอนันตคุณ ปี ๒๕๒๗ เนื้อหาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและข้อมูลของเหรียญฯ
10 ก.พ. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy