แชร์

พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ตำนานยอดพระเครื่องเมืองหลังสวน

อัพเดทล่าสุด: 29 ธ.ค. 2024
17 ผู้เข้าชม

พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน : ตำนานยอดพระเครื่องเมืองหลังสวน (๑๕/๒๔)

โดย....... ชายนำ ภาววิมล .......

            พระปิดตามหาลาภองค์น้อย พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน เป็นสุดยอดพระปิดตาเมืองหลังสวนที่สร้างชื่อเสียงเกียรติคุณให้กับพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม มากที่สุดพิมพ์หนึ่ง ทั้งเป็นพระเครื่องที่เปิดศักราชใหม่ของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ในช่วงทศวรรษ ๒๕๓๑ - ๒๕๔๐ ตลอดระยะเวลายี่สิบปีที่ท่านครองสมณะเพศด้วยความสงบสันโดษในแถบคุ้งน้ำเขาเงิน ลุ่มน้ำหลังสวน ข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏแก่สายตานักนิยมพระเครื่องทั่วไปมีเพียงชีวประวัติและเรื่องราวเกี่ยวกับพระเครื่องในรูป/นามของหลวงพ่อแดง พุทโธ ปี ๒๕๑๑ เท่านั้น ไม่มีนิตยสารใดที่นำเสนอเรื่องราวของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม เป็นการเฉพาะ หลังจากที่คณะศิษย์สายกองคุ้มครองแรงงาน กรมแรงงาน นำพระปิดตามหาลาภองค์น้อยไปถวายท่านในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ๒๕๓๓ และพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม มีดำริที่จะก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ในเวลาถัดมา จึงได้มีการนำเสนอชีวประวัติและความเคลื่อนไหวในการสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลรุ่นต่าง ๆ ของท่านอย่างต่อเนื่อง

            ดังที่เกริ่นนำมาในตอนที่แล้วว่าพระปิดตามหาลาภองค์น้อย อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวโดยพระเกจิอาจารย์ ๕ รูป แต่ยังมิได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ที่คณะศิษย์ฯ กลุ่มนี้ประสบพบเหตุแบบเจาะลึกลงไปถึงเบื้องหลังการถ่ายทำอย่างพิสดาร ทั้งยังมีคำถามจากนักนิยมพระเครื่องรุ่นใหม่  ๆ ว่า พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับพระเกจิอาจารย์เมืองนครปฐมอย่างไรบ้าง เพราะในชีวประวัติของท่าน มิได้มีตอนใดที่บ่งบอกว่าท่านเคยพบหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก วัดดอนยายหอม ข้อเท็จจริงคือ บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานจัดสร้างพระปิดตามหาลาภองค์น้อย คนแรกคือ คุณสุธน ศรีหิรัญ ลูกศิษย์คนสำคัญของหลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน และพระอาจารย์ใบ คุณวีโร วัดกลางบางแก้ว คนที่สองคือ ผู้เรียบเรียงเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก และเป็นผู้สร้างพระกริ่งยอดขุนพล, พระบัวเข็ม, พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก, เหรียญหล่อ ๗๙ ถวายหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ในช่วงระหว่างปี ๒๕๒๖ - ๗ เป็นผู้นำผงวิเศษต่าง ๆ ของหลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ/หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว และมวลสารต่างๆ ของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ตลอดทั้งมวลสารของพระเกจิอาจารย์อื่นที่เก็บรวบรวมในห้วงเวลาที่เดินสายจัดฝึกอบรมทั่วประเทศ มาเป็นส่วนผสมในการสร้างพระปิดตามหาลาภองค์น้อยในคราวนั้น

          ศิษย์ฆราวาสคนหนึ่งของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม (เคยเป็นเด็กวัดที่ปฏิบัติหน้าที่ในการปรนนิบัติรับใช้ บีบนวดให้ท่านเป็นประจำ) พูดกับผู้เรียบเรียงทางโทรศัพท์ว่า พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม เคยบอกกับเขาว่า หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เป็นพระอรหันต์ ตอนนั้น ผู้เรียบเรียงถามกลับไปทันทีว่าพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม รู้ได้อย่างไรในเมื่อพระสุปฏิปันโนทั้งสองรูปไม่เคยพบกันมาก่อน ศิษย์ฆราวาสคนนั้นตอบกลับแบบทันทีทันควันเช่นกัน ก็เพราะพระปิดตามหาลาภองค์น้อยที่พวกพี่ทำถวายนั่นแหล่ะ ข้อเท็จจริงเป็นประการใด ผู้เรียบเรียงมิอาจยืนยันได้เพราะไม่ได้ฟังจากปากของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม โดยตรง ทั้งไม่มีภูมิธรรมแม้แต่น้อยนิดที่จะเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าพระสุปฏิปันโนรูปใดเป็นพระอรหันต์ อย่างมากก็เพียงแค่บอกเล่าสู่กันฟังว่าพระรูปใดที่สามารถกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ พระสุปฏิปันโนที่ผู้เรียบเรียงเคยสัมผัสใกล้ชิด และกราบไหว้ด้วยความสนิทใจมีเพียง ๓ รูปคือ หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก วัดดอนยายหอม, พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน และหลวงพ่อเพชร จนฺทวํโส วัดบ้านกรับ

         ธรรมเนียมปฏิบัติที่ผู้เรียบเรียงถือปฏิบัติเป็นประจำทุกครั้งที่เดินทางโดยรถยนต์เพื่อไปปฏิบัติราชการ (จัดฝึกอบรม) ทางภาคใต้ ผู้เรียบเรียงต้องแวะเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ที่วัดดอนยายหอม โดยใช้เส้นทางนครปฐม - บ้านแพ้ว ไปออกถนนพระรามสองแล้วเดินทางลงใต้. ก่อนเดินทางไปกราบนมัสการพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม คณะศิษย์สายกองคุ้มครองแรงงาน (ประกอบด้วย คุณอัมพร นีละโยธิน ผู้อำนวยการกองคุ้มครองแรงงาน [ตำแหน่งสุดท้ายคือรองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน], คุณจุฑาธวัช อินทรสุขศรี หัวหน้าฝ่ายตรวจแรงงาน ๒ [ตำแหน่งสุดท้ายคือปลัดกระทรวงแรงงาน], คุณสุธน ศรีหิรัญ, คุณชายนำ ภาววิมล, คุณพีระ ชัยชาญ, คุณประสบชัย สินธุเสน และเจ้าหน้าที่กองคุ้มครองแรงงานอีกหนึ่งคน จำชื่อไม่ได้) ไม่มีกำหนดการแน่นอนว่าจะแวะที่ใดบ้าง เช้าวันเดินทาง (วันศุกร์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๓๓) ผู้เรียบเรียงเสนอให้แวะเข้าไปกราบนมัสการและขอให้หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ล้อรถตู้หมุนออกจากกรมแรงงานเดิน ทางไปวัดดอนยายหอม ถึงกุฏิหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ในราว ๑๐ โมงเศษ เมื่อหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ทราบจุดมุ่งหมายที่เดินทางมากราบนมัสการท่านแล้ว ก็เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้เต็มที่ วันนั้น หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ใช้เวลาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวนานกว่าครึ่งชั่วโมง ตลอดเวลาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตลอดเวลา ในเรื่องคุณวิเศษของน้ำพระพุทธมนต์ ศิษย์หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ยุคแรก ๆ (ก่อนปี ๒๕๒๐) ต่างรู้ดีว่าหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก มีชื่อเสียงโด่งดังจากน้ำพระพุทธมนต์

           มีเรื่องเล่ากันว่า คหบดีชาวจีนคนหนึ่งเดินทางมาวัดดอนยายหอมเพื่อขอน้ำพระพุทธมนต์จากหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ วันนั้น หลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณโณ มีกิจนิมนต์นอกวัด คหบดีคนนั้น นั่งรอหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณโณ เป็นเวลานาน นั่งรอด้วยความกระสับกระส่าย ชาวบ้านที่นั่งอยู่แถวนั้น เดินไปบอกกับคหบดีคนนั้นว่า ไม่รู้ว่าหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ จะกลับเมื่อไหร่ ให้ไปขอน้ำพระพุทธมนต์จากหลวงพ่อองค์เล็กซิ ท่านเก่งเหมือนกัน ครั้นจะปฏิเสธก็เกรงชาวบ้านจะเสียน้ำใจ จึงจำใจต้องเดินตามชาวบ้านไปหาหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ที่กุฏิของท่านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกุฏิหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณโณ มากนัก ชาวบ้านคนนั้นรับรู้ท่าทีของคหบดีที่เดินตามไปหาหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก แบบเสียไม่ได้ เลยกระซิบบอกหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ถึงเหตุต่าง ๆ และขอให้ช่วยทำน้ำพระพุทธมนต์แบบคำที่วัยรุ่นชอบใช้กันคือจัดเต็ม หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ไม่ว่าอะไร เดินเข้าไปในกุฏิสักพักใหญ่ แล้วออกมาพร้อมกับขวดน้ำพระพุทธมนต์ หลังจากประสิทธิประสาทให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คหบดีก็กราบนมัสการลากลับ ขณะที่กำลังจะเดินทางกลับ เหลือบเห็นหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ กลับเข้ามาถึงวัดดอนยายหอม จึงเปิดฝาขวดเทน้ำพระพุทธมนต์ทิ้ง ปรากฏว่า..เทอย่างไร น้ำพระพุทธมนต์ ก็ไม่ไหลออกจากขวด... คหบดีเลยพูดขึ้นมาว่า หลวงพ่อองค์เล็กก็เก่งเหมือนกัน การที่หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวให้แบบจัดเต็มและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตลอดเวลา ย่อมไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน

            เสร็จจากพิธีฯ หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ แจกผ้ายันต์และด้ายเสก วัตถุมงคลแบบบ้านๆ ที่เป็นสุดยอดวิชาของสำนักวัดดอนยายหอม ทั้งให้พรด้วยเสียงที่เปี่ยมด้วยความเมตตายิ่งว่า ขอให้เฮง ๆ รวย ๆ ซวย ๆ ออกไป เดินทางใกล้ไกล แคล้วคลาดปลอดภัย คำให้พรในลักษณะนี้ สร้างความประทับใจให้กับบรรดาศิษยานุศิษย์และสาธุชนที่เดินทางมากกราบนมัสการท่านเป็นอย่างยิ่ง เป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน เสร็จจากวัดดอนยายหอม ก็เดินทางต่อและแวะรับประทานอาหารกลางวันที่เพชรบุรี ระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน คุณสุธน ศรีหิรัญ บอกกับคณะฯ ว่าที่อำเภอท่ายาง มีพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งเก่งมากเช่นกัน วัดของท่านอยู่ห่างจากถนนเพชรเกษมไม่มากนัก พระเกจิอาจารย์รูปนี้ คือ หลวงพ่อจ่าง อเชยโย วัดเขื่อนเพชร ไหน ๆ ก็ต้องผ่านอำเภอท่ายางอยู่แล้ว ทั้งเวลาก็มีมากพอสมควร ลองแวะเข้าไปหาท่านดีไหม การเดินทางครั้งนี้ ไม่มีฝ่ายค้าน ใครเสนออะไร ไม่มีใครขัดเพราะไปด้วยจิตอันเป็นกุศล ทั้งกำหนดการเดินทางก็วางไว้แบบหลวม ๆ ไม่จำเป็นต้องเร่งรัดอะไรมากนัก

            ช่วงแรกที่เกริ่นนำและขอให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตปลุกเสกพระปิดตามหาลาภองค์น้อย หลวงพ่อจ่าง อเชยโย นิ่งเฉย ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ คุรสุธน ศรีหิรัญ เห็นท่าทีเช่นนี้ เลยอธิบายจุดมุ่งหมายของการสร้างพระปิดตารุ่นนี้ให้ท่านทราบ เมื่อทราบรายละเอียดต่าง ๆ กระจ่างชัดแล้ว หลวงพ่อจ่าง อเชยโย บอกให้นำพระปิดตามหาลาภองค์น้อยทั้งสองกล่องใหญ่มาให้ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ ขณะที่ท่านทำพิธีฯ นาฬิกาโบราณของท่าน มีเสียงดังติด ๆ กัน ดังเป็นระยะ ๆ พอท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกเสร็จ เสียงนาฬิกาโบราณก็พลอยหยุดไปด้วย นี่ก็เป็นความอัศจรรย์อีกประการหนึ่งที่คณะฯ ประสบพบเหตุจากการอธิษฐานจิตปลุกเสกพระปิดตามหาลาภองค์น้อยของหลวงพ่อจ่าง อเชยโย ขณะกราบนมัสการลาเพื่อเดินทางต่อ หลวงพ่อจ่าง อเชยโย กล่าวกับคณะฯ ว่า "ดีแล้ว" และบอกให้นำไปให้หลวงพ่อนิ่ม มฺงคโล วัดเขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อธิษฐานจิตปลุกเสกด้วย ทั้งย้ำว่า "ถ้าหลวงพ่อนิ่ม มฺงคโล ไม่ยอมเสกอธิษฐานจิตปลุกเสก ให้บอกว่าฉันสั่ง"

            เดินทางออกจากวัดเขื่อนเพชรมาถึงวัดเขาน้อยในราวบ่ายสามโมงเศษ คุณสุธน ศรีหิรัญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่เสมือนหนึ่งว่าเป็นมัคคุเทศก์นำพาคณะฯ ไปกราบนมัสการพระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญพระเวทย์วิทยาคม กราบนมัสการหลวงพ่อนิ่ม มงฺคโล บอกจุดมุ่งหมายในการเดินทางมากกราบนมัสการท่านและบอกว่าหลวงพ่อจ่าง อเชยโย สั่งให้นำพระปิดตาฯ มาขอความเมตตาจากท่านช่วยอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ พอทราบว่าหลวงพ่อจ่าง อเชยโย บอกให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตปลุกเสก จึงให้นำกล่องพระปิดตาไปวางที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาของท่าน ขณะนั้น คุณอัมพร นีละโยธิน ผู้อำนวยการกองคุ้มครองแรงงาน เดินเข้าไปนั่งใกล้ ๆ บริเวณโต๊ะหมู่บูชาที่จักทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนั้น หลวงพ่อนิ่ม มฺงคโล เห็นเช่นนั้น เลยบอกให้ทุกคนออกไปนั่งห่าง ๆ ไม่ยอมให้ใครเข้ามานั่งใกล้บริเวณที่ท่านนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสก หลวงพ่อนิ่ม มงฺคโล ใช้เวลาอธิษฐานจิตปลุกเสกครั้งนี้นานประมาณครึ่งชั่วโมง ขณะที่ท่านทำพิธีฯ อากาศโดยรอบบริเวณที่ท่านนั่งทำพิธี หยุดนิ่ง ไม่มีกระแสลมเลยแม้แต่น้อย

            พระเกจิอาจารย์รูปที่สี่ที่เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกพระปิดตามหาลาภองค์น้อยต่อจากหลวงพ่อนิ่ม มงฺคโล คือ หลวงพ่อแดง วิมโล วัดอุทัยธรรม (วัดเขาถล่ม) ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร พระเกจิอาจารย์อาวุโสที่คนชุมพรเคารพเลื่อมใสมากอีกรูปหนึ่ง และพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม มักกล่าวยกย่องหลวงพ่อแดง วิมโล ว่าเป็นพระที่เก่งและดีมากรูปหนึ่ง พระเครื่องและเหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อแดง วิมโล มีห้วงระยะเวลาการจัดสร้างคล้ายคลึงกับการสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม คือ ปี ๒๕๑๑, ปี ๒๕๒๒ และกระโดดมาในปี ๒๕๓๓ วัตถุมงคลของท่านที่ขึ้นชื่อและเป็นที่เสาะแสวงหาในหมู่ลูกศิษย์ คือ พระเกศหรือลูกอมพอกเกศา เชื่อกันว่ามีพลานุภาพโดดเด่นทางด้านเมตตามหานิยม การเดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อแดง วิมโล คณะฯ เดินทางไปถึงเมืองชุมพร ก็เย็นมากแล้ว จึงหาที่พักค้างแรมแล้วค่อยไปกราบนมัสการหลวงพ่อแดง วิมโล ในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๓๓

            หลวงพ่อแดง วิมโล เป็นพระสุปฏิปันโนที่มีสิริอายุ ๙๗ ปี (ในปี ๒๕๓๓) ขณะที่รถตู้เลี้ยวเข้าไปจอดในเขตวัด ก็พบพระภิกษุอาวุโส ผอมสูงรูปหนึ่งกำลังเลื่อยไม้อยู่ แม้อายุมากแต่ก็ดูแข็งแรงมาก พระภิกษุรูปนี้ คือ หลวงพ่อแดง วิมโล ที่คณะฯ เดินทางมากราบนมัสการและขอให้ท่านช่วยอธิษฐานจิตปลุกเสกพระปิดตามหาลาภองค์น้อยก่อนที่จะนำไปถวายพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ในบ่ายวันเสาร์ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๓๓ เมื่อทราบวัตถุประสงค์แล้ว ท่านเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวประมาณ ๒๐ นาที หลังนั้น มัคคุเทศก์กิตติศักดิ์ของคณะฯ ขอให้ท่านช่วยรดน้ำมนต์ให้ เหลียวมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นมีขันน้ำมนต์หรือหญ้าคาสำหรับประพรมน้ำมนต์ จึงได้แต่นั่งรอ สักพักท่านเดินไปหยิบขันน้ำพลาสติกมาตักน้ำในตุ่ม แล้วกลับมาใส่ที่อาสนะตามเดิม เอื้อมมือขึ้นไปหยิบกระปุกน้ำมันใส่ผมบนหิ้งหลังอาสนะ กระปุกน้ำมันใส่ผมมี ๒ ขวดแต่ละขวดมียี่ห้อต่างกัน จากนั้นเปิดฝา ควักสีผึ้งในกระปุกนั้นมาจุ่มลงในขันพลาสติกแล้วอธิษฐานจิตทำน้ำพระพุทธมนต์ เวลาจะประพรมน้ำพระพุทธมนต์ก็เรียบง่ายสุดๆ หยิบดอกกล้วยไม้บูชาพระขึ้นมาจุ่มน้ำพระพุทธมนต์ในขันพลาสติก เวลาประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ทั้งน้ำและกลีบดอกไม้กระจายไปทั่ว พบพระเกจิอาจารย์มาก็มาก ที่เรียบง่ายแบบสุดๆ ก็เพิ่งพบคราวนี้

            ขณะที่คณะฯ กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการขอถ่ายภาพหลวงพ่อแดง วิมโล คุณสุธน ศรีหิรัญยกกล้องขึ้นถ่ายภาพ ในใจคิดเตลิดไปว่าภาพนี้สวยมาก น่าจะเอาไปเป็นแบบสร้างเหรียญ เท่านั้นแหล่ะ หลวงพ่อแดง วิมโล พูดแบบที่ทุกคนไม่คาดว่าจะได้ยินจากปากของท่าน ภาพนี้...เอาไปทำเหรียญซิ ภาพนั้น จึงเป็นที่มาของเหรียญหลวงพ่อแดง วิมโล รุ่นเจริญสุข ซึ่งเป็นเหรียญรูปเหมือนรุ่นที่ ๓ และเป็นรุ่นสุดท้ายของหลวงพ่อแดง วิมโล ที่คณะศิษย์พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม สายนี้ สร้างถวายในกลางปี ๒๕๓๓ หลังจากนั้นไม่นาน หลวงพ่อแดง วิมโล ก็ละสังขารในเดือนพฤศจิกายน ปี ๒๕๓๓ เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผู้เรียบเรียงศรัทธาและเชื่อมั่นว่าหลวงพ่อแดง วิมโล น่าจะเป็นพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งของเมืองชุมพร คือ ตอนที่นำเหรียญรูปเหมือนรุ่นเจริญสุขไปถวายท่านที่วัดเขาถล่ม จำนวนการสร้างประมาณ ๓,๐๐๐ เหรียญ ท่านสั่งให้นำกล่องเหรียญทั้งหมดไปไว้ในห้องของท่าน รุ่งขึ้นค่อยมารับคืน เมื่อถึงเวลา สุธน ศรีหิรัญ ช่างตุ้ม (โสภณ ศรีรุ่งเรือง) และผู้เรียบเรียงกลับเข้าไปพบท่านตามเวลาที่นัดไว้ ทางคณะฯ ขอเหรียญกลับมาเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญและถวายเหรียญส่วนใหญ่ให้ท่าน หลวงพ่อแดง วิมโล หยิบเหรียญคืนให้เป็นจำนวนมาก พวกเรากราบเรียนว่าถวายให้ท่านใช้ประโยชน์ตามที่เห็นสมควร หลวงพ่อแดง วิมโล ไม่รับ บอกว่าเก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อันใด เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณสุธน ศรีหิรัญ ก็ถามว่าจะสร้างรูปเหมือนปั๊มมาถวายได้ไหม ท่านนิ่งเฉยและพูดต่อว่าโยมแก่ขึ้นมีความหมาย แต่ฉันแก่ลง ไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่รอวันตาย ตอนนั้น ไม่ ทันได้ฉุกคิดอะไร เสร็จธุระจากวัดเขาถล่ม/วัดถ้ำเขาเงิน ก็เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ก่อนปีใหม่เพียงไม่กี่วัน คุณประสบชัย สินธุเสน ซึ่งกลับจากเยี่ยมบ้านที่หลังสวน แจ้งกับทุกคนว่าหลวงพ่อแดง วิมโล ละสังขารไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เรียบเรียงโน้มเอียงที่จักเชื่อว่าท่านรู้วันมรณภาพล่วงหน้า และหลวงพ่อแดง วิมโล รูปนี้น่าจะมีภูมิธรรมสูงมากอีกรูปหนึ่ง

            การนำเสนอในตอนนี้ เป็นการเรียบเรียงขึ้นจากสิ่งที่ผู้เรียบเรียงเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้น ทั้งยังเป็นคนที่มีบทบาทและหน้าที่ในการประสานงานเพื่อให้การสร้างพระปิดตามหาลาภองค์น้อยสำเร็จลุล่วงไปตามเจตนารมณ์ของคณะศิษย์ฯ สายกองคุ้มครองแรงงาน กรมแรงงาน ประสบการณ์ที่มีโอกาสพบเห็น เกิดขึ้นภายหลังวิบัติภัย คือ พายุเกย์พัดถล่มเมืองชุมพรในช่วงปลายปี ๒๕๓๒ สภาพความสูญเสียยังคงปรากฏในเพลานั้น คนพื้นที่หลายคนพูดกับคณะฯ ว่าที่อื่นได้รับความเสียหายมากมาย แต่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งมิได้รับความสูญเสียจากวาตภัยในครั้งแล้ว สิ่งที่พบเห็นในห้วงเวลานั้น ยังไม่จางหายไปจากความทรงจำ ทั้งยังมีรายละเอียดปลีกย่อยเรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกมากมาย สองวันที่มีโชควาสนาได้กราบนมัสการพระอริยสงฆ์และพระสุปฏิปันโนทั้งสี่รูป เป็นเงื่อนไขที่ทำให้คณะศิษย์ฯ สายกองคุ้มครองแรงงาน เชื่อมั่นเต็มร้อยว่าพระปิดตามหาลาภองค์น้อยนี้ เป็นพระเครื่องประเภทจิ๋วแต่แจ๋วที่สามารถนำมาขึ้นคอด้วยความสบายใจ

           ตอนหน้า จะเป็นการนำเสนอรายละเอียดและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คณะฯ ได้สัมผัสกับยอดพระเกจิอาจารย์ผู้สร้างตำนานยอดพระเครื่องเมืองหลังสวน รวมทั้งประสบการณ์ที่ลูกศิษย์ยุคนั้นประสบพบเหตุจากการนำพระปิดตามหาลาภองค์น้อยไปห้อยคอ

(บทความนี้ เป็นบทความเก่าที่ตีพิมพ์ในนิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๑๑๘๖ ปักษ์แรก เมษายน ๒๕๕๙ หน้า ๓๕ - ๓๗)


บทความที่เกี่ยวข้อง
หน้าปกบทความตอน ๒๐
ชีวประวัติ พระเครื่องและวัตถุมงคลพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน ชุมพร ตีพิมพ์ระหว่างปี ๒๕๕๘ - ๒๕๕๙ รวม ๒๔ ตอน
20 ม.ค. 2025
หน้าปกพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ตอนที่ ๑๙
ชีวประวัติ พระเครื่องและวัตถุมงคลพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน ชุมพร ตีพิมพ์ระหว่างปี ๒๕๕๘ - ๒๕๕๙ รวม ๒๔ ตอน
16 ม.ค. 2025
หน้าปกบทความพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ตอนที่ ๑๘
ชีวประวัติ พระเครื่องและวัตถุมงคลพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน ชุมพร ตีพิมพ์ระหว่างปี ๒๕๕๘ - ๒๕๕๙ รวม ๒๔ ตอน
14 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy