"เหรียญเกราะเพ็ชร์" เป็นหนึ่งในพระเครื่องและวัตถุมงคลชุดอิทธิฤทธิ์ประสิทธิ์ผล ปี ๒๕๐๗ ซึ่งมีอายุการสร้างนานกว่าหกสิบปี ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ของวัดบพิตรพิมุขหลายครั้งหลายหน ประวัติความเป็นมาในการจัดสร้างที่ระบุไว้ในเอกสารเผยแพร่ของวัดบพิตรพิมุข มีสาระสำคัญโดยสรุปดังนี้ "ในปี ๒๕๐๗ พระสิรินันทมุนี (สนั่น ถาวโร) เจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุข ถนนจักรวรรดิ พระนคร ดำริที่จะสร้างพระเครื่องขึ้นมาสักรุ่นหนึ่งเพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างกุฏิสงฆ์ที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา นอกจากวัตถุประสงค์ในการหาทุนแล้ว พระสิรินันทมุนียังมีความมุ่งมั่นที่จะสรรค์สร้างพระเครื่องที่ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธ์แห่งพุทธมนต์ อักขระพระคาถาหัวใจไตรสรณาคม และพิธีกรรมตามตำรับตำราที่สืบทอดมาจากหลวงปู่ไข่ อินฺทสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดบพิตรพิมุข เพื่อให้ผู้ที่นำไปสักการบูชาเป็นเครื่องมนสิการ ยังความสำเร็จสถาพรมาสู่ชีวิต พระเครื่องและวัตถุมงคลที่สร้างในวาระนี้ มี ๕ รายการด้วยกัน ประกอบด้วย พระพุทธกวัก ว.บ.พ. (ทางมหาลาภ ผล), เหรียญเกราะเพ็ชร์ (ทางป้องกัน), เหรียญโภคทรัพย์ (ทางร่ำรวย), พระปิดตาพระอาจารย์ไข่ ว.บ.พ. (ทางมหานิยมอำนาจ), และผ้าธงยันต์อาจารย์ไข่ (ทางค้าขาย-อาชีพ)."
เหรียญเกราะเพ็ชร์ เป็นเหรียญที่มีลักษณะและขนาดเล็กเท่าพระปรกใบมะขามทั่วไป ด้านหน้าเป็นภาพจำลองหลวงพ่อแสน พระพุทธรูปสำคัญของวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร ข้างพระเศียรเป็นอักขระขอม ๔ ตัว คือ "พุท ธะ สัง มิ" ใต้ฐานเป็นอักษรย่อ ว.บ.พ. (วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร) ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์เกราะเพ็ชร์ หลวงพ่อแสนองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างตามแบบศิลปะเชียงแสน องค์เดิมเป็นเนื้อทองขาวล้วน เมื่อคราวที่วัดบพิตรพิมุขวรวิหารประสบอัคคีภัย หลวงพ่อแสนถูกไฟไหม้เหลือแต่พระเศียร พระสิรินันทมุนี (สนั่น ถาวโร) จึงบูรณะใหม่ให้เป็นองค์ที่สมบูรณ์ในวันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๗ นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมทั้งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเข้าไว้ในพระเกศ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ และถวายพระนามใหม่ว่า "พระพุทธนันทมหามุนี ศรีอุตตร บุรีเชียงแสน อายุวัฒนโลกุตตมาจารย์"
พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้นที่พระอุโบสถวัดบพิตรพิมุขวรวิหาร เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง ศุภฤกษ์เวลา ๑๓ นาฬิกา ๒๕ นาที ประกอบด้วยภะระณี คือ มหัทธะโน ๒ แห่งฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มีอิทธิฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ มีลาภผลดี เจริญสุขดียิ่ง (ผู้ให้ฤกษ์: พระครูพิศาลสรกิจ หรือพระอาจารย์กลิ่น วัดจักรวรรดิราชาวาส) พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน ๑๖ รูป อธิษฐานจิตปลุกเสก พระเกจิอาจารย์ทั้ง ๑๖ รูป ประกอบด้วย
๑) พระครูอาทรสิกขกิจ (บุญมี อิสโร) วัดเขาสมอคอน ลพบุรี
๒) พระครูอนุกูลคณารักษ์ (เงิน) วัดสว่างอารมณ์ นครนายก
๓) พระครูสังวรโสภณ (มาก) วัดปากคลอง ลพบุรี
๔) พระครูสุเทพสิทธิการย์ (ทองอยู่ ฐิติญาโณ) วัดเทวประสาท พิจิตร
๕) พระครูสุขวุฒาจารย์ (สุข สุขสโร) วัดบางลี่ ลพบุรี
๖) พระครูพิศาลสรกิจ (กลิ่น) วัดจักรวรรดิราชาวาส
๗) พระครูสละ ปุญญสุวณฺโณ (หลวงพ่อฤาษี) วัดท้องคุ้ง ลพบุรี
๘) พระอาจารย์เพิ่ม สุวิโจ วัดจักรวรรดิราชาวาส
๙) พระอาจารย์ถิร วัดบพิตรพิมุข
๑๐) หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม
๑๑) พระครูสรกิจพิจารณ์ (ผัน จิณฺณธมฺโม) วัดราษฎร์เจริญ สระบุรี
๑๒) ปรมาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส
๑๓) พระอาจารย์โชติ วัดจักรวรรดิราชาวาส
๑๔) พระมหาสอน (ศิษย์เอกหลวงปู่ไข่) วัดบพิตรพิมุข
๑๕) พระครูสาธุธรรมคุณาธาร (วน อหิสโก) วัดบพิตรพิมุข
๑๖) พระครูสถาพรพุทธมนต์ (สำเนียง อยู่สถาพร) วัดเวฬุวนาราม นครปฐม
เหรียญเกราะเพ็ชร์ วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร รุ่นนี้เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ช่วงแรกที่ทางวัดนำออกให้เช่าบูชาใหม่ๆ มีด้ายสำหรับผูกข้อมือติดมากับเหรียญเพื่อให้ผู้เช่าบูชานำไปผูกข้อมือเด็ก ในเอกสารเผยแพร่ของวัดที่อ้างถึง กล่าวถึงเหรียญนี้ว่า เหรียญนี้มีลักษณะคล้ายใบมะขาม เล็กกะทัดรัด สวยงามมาก ขนาดกว้างของเหรียญประมาณครึ่งเซ็นต์ สูงประมาณ ๑ เซ็นต์ ด้านหน้าของเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อแสน ที่ฐานมีตัวอักษร ว.บ.พ. ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพ็ชร์สี่เหลี่ยมรี มีพระอุณาโลมอยู่เบื้องบน วัตถุที่ทำเหรียญทำด้วยโลหะอย่างเดียวเป็นสีทอง ได้ทำด้ายสำหรับผูกข้อมูล ผูกติดไว้ที่เหรียญนั้นด้วย เพื่อใช้ผูกข้อมือเด็กจะไม่ขี้อ้อน เลี้ยงง่ายไม่เจ็บไข้ เมื่อหมดความจำเป็นแล้ว ตัดออกเหลือไว้แต่เหรียญไว้สำหรับติดตัวเด็ก ป้องกันอันตรายต่อไป เวลาจะผูกข้อมือเด็กให้ระลึกถึงหลวงพ่อแสนแล้วว่าพระคาถา คะ พุทธ ปัน ทู ธัม วะ คะ เด็กจะสมบูรณ์โตวันโตคืน คุณานุภาพของเหรียญเกระเพ็ชร์ ตามตำหรับบอกไว้ว่า เป็นเจ้าแห่งการป้องกันทั้งหลาย ผู้ที่มีเหรียญนี้เหมือนกับมีเกราะเพ็ชร์ป้องกันตัว จึงสมควรมีไว้เพื่อบุตรหลานของท่าน
เนื่องจากเหรียญเกราะเพ็ชร์ มีจำนวนการสร้างมากพอสมควร และทางวัดก็มิได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงจุดเด่นของเหรียญรุ่นนี้อย่างจริงจัง เป็นเหตุให้เหรียญเกราะเพ็ชร์เหลือตกค้างที่วัดบพิตรพิมุขวรวิหารเป็นเวลานานกว่า ๒๐ ปี ผิดกับพระปรกใบมะขามที่ทางวัดบพิตรพิมุขจัดสร้างในปี ๒๕๑๖ มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่าหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวณฺโณ วัดประดู่ฉิมพลี มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วย ทั้งให้เช่าบูชาและแจกฟรีให้กับผู้ถือใบปลิวของวัดมารับแจก ทำให้พระปรกใบมะขามรุ่นนั้นหมดไปจากวัดอย่างรวดเร็ว การเหลือตกค้างที่วัดบพิตรพิมุขวรวิหารก็มีผลดีเช่นกัน เพราะทางวัดนำวัตถุมงคล/พระเครื่องที่สร้างในปี ๒๕๐๗ เข้าพิธีพุทธาภิเษกฯ อีกหลายครั้ง อาทิ ปี ๒๕๑๕, ๒๕๑๖, ๒๕๓๖ กว่าเหรียญเกราะเพ็ชรจะค่อยๆหมดไปจากวัดบพิตรพิมุข ในปาเข้าไปถึงปี ๒๕๓๘ - ๒๕๓๙
วันวาน เหรียญเกราะเพ็ชร์เปรียบเสมือนเพชรในตมที่นักนิยมพระเครื่องทั่วไปมองข้ามกันมานานหลายสิบปี มาในวันนี้ กระแสความนิยมในพระเครื่องประเภทพระกลางใหม่กลางเก่าที่นักนิยมพระเครื่องทั่วไปไม่รู้จักและมองข้ามมาโดยตลอด เริ่มขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งพระใหม่ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เล็กพอ ๆ กับพระปรกใบมะขามในอดีต เริ่มเป็นที่นิยมและมีการจัดสร้างมากขึ้นเรื่อยๆ น่าจะมีส่วนเกื้อหนุนให้คนหันมามองเหรียญเกราะเพ็ชร์รุ่นนี้มากขึ้น แต่ถ้าต้องการหาพระเครื่องชั้นดีให้คนที่ท่านรักห้อยคอ เหรียญเกราะเพ็ชร์เป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาไม่น้อย มีทั้งความเก่า พิธีกรรมถูกต้องตามแบบอย่างที่มีมาแต่โบราณกาล ให้เด็กห้อยคอก็ไม่ต้องกลัวหาย ไม่ต้องอันตรายจากมิจฉาชีพ จะเลี่ยมทองไว้ใช้เองก็เบากระเป๋า
สามสิบปีก่อน อุทยานพระเครื่อง โดย... ชายนำ ภาววิมล ... ตามเก็บเหรียญเกราะเพ็ชร์ชุดนี้ โดยไปเช่าบูชาที่วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร เป็นประจำ ครั้งละห้าองค์บ้างสิบองค์บ้าง ได้มา แจกพรรคพวกไปก็ไม่น้อย ตอนนี้เหลืออยู่จำนวนหนึ่ง พอที่จะแบ่งปันกันได้ สนใจโอนเงินเข้าบัญชีกสิกรไทย สาขาศาลายา เลขบัญชี ๕๗๘-๒-๒๔๕๖๘-๘ ในนามของชายนำ ภาววิมล อัตราค่าบูชาองค์ละ ๔๐๐ บาท (รวมค่าส่งแล้ว) ส่งสำเนาใบโอนพร้อมที่อยู่ที่ให้จัดส่งไปทางไลน์ตามหมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๑-๙๑๒-๗๘๙๙ แล้วจะดำเนินการจัดส่งให้โดยเร็ว