หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก วัดดอนยายหอม ภาคปาฏิหาริย์

หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก

พระอริยสงฆ์แห่งดอนยายหอม: ภิกษุผู้เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม

ภาคปาฏิหาริย์

        ปกติแล้ว ผู้เรียบเรียงให้ความสำคัญกับปาฏิหาริย์ของพระเกจิอาจารย์รูปต่างๆ ประสบการณ์ที่เกิดจากการนำวัตถุมงคลของพระอาจารย์แต่ละรูปไปห้อยคอติดตัว/สักการบูชาน้อยมาก นำเสนอเท่าที่จำเป็นและอยู่ในขอบเขตที่พอเหมาะพอควร ไม่ขยายความ ต่อเติม ปรุงแต่งให้มากจนเกินงาม นำเสนอพอให้ได้อรรถรสตามความต้องการของผู้อ่าน ทั้งนี้เพราะผู้เรียบเรียงตระหนักดีว่าตนเองมีบทบาทหน้าที่และสถานะในสังคมอย่างไร ที่สำคัญยิ่งประการหนึ่ง คงต้องยอมรับความจริงว่าการนำเสนออะไรที่มากเกินขอบเขต ผลเสียที่เกิดขึ้น ย่อมสะท้อนกลับมายังพระสุปฏิปันโนที่พวกเราศรัทธา คารพนับถือด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยเฉพาะในสังคมโลกยุคดิจิตอล กระแสสังคมที่ขาดการจัดระเบียบด้านการสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์เป็นภัยคุกคามที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุดประการหนึ่ง คำพิพากษาทางสังคมที่ขาดการพิจารณาไต่สวนตามหลักนิติธรรม ทำลายคนดีไปไม่น้อย พระภิกษุที่มีศีลาจาริยาวัตรงดงาม ก็ยากที่จะหลีกพ้นวิบากนี้เช่นกัน การหยิบยกเกร็ดประวัติอีกด้านหนึ่งของพระสุปฏิปันโนที่ว่าอิทธิปาฏิหาริย์ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากวัตถุมงคลที่จัดสร้างในรูปและนามของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแต่ละรูป พึงกระทำด้วยความระมัดระวัง ทั้งเกริ่นนำกับท่านผู้อ่านทุกท่านแบบตรงไปตรงมาว่าควรใช้วิจารณญาณในการติดตามเรื่องที่นำเสนอในลำดับต่อไปนี้ เรื่องราวที่หยิบยกขึ้นมาเล่าสู่กันในหมู่สมาชิกและผู้ติดตามอ่านนิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ตอนนี้ เรียบเรียงขึ้นจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก พระอริยสงฆ์แห่งดอนยายหอม ซึ่งมีมุมมองและความเชื่อแตกต่างกัน มิได้มาจากปากคำของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก โดยตรง 

            เมื่อปี ๒๕๕๙ ผู้เรียบเรียงตั้งกระทู้บน Facebook ในกลุ่มสาธารณะชมรมหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมว่า อะไรคือสุดยอดวิชาของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก คำถามนี้มีลักษณะเป็นคำถามแบบปลายเปิด คือ เปิดกว้างให้ผู้ตอบสามารถตอบได้อย่างอิสระ ตำตอบที่ได้ในคราวนั้น พอจำแนกแยกแยะได้ใน ๔ ประเด็น ดังนี้

                   ๑) คำพูดของพระอริยสงฆ์ร่วมสมัย อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง, หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข, หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ที่บอกกล่าวกับผู้ที่ไปกราบนมัสการพระอริยสงฆ์เหล่านั้นว่า หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก บรรลุธรรมชั้นสูงสุด ส่วนจะเป็นภูมิธรรมชั้นใด ผู้เรียบเรียงเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีภูมิธรรมใดที่หาญกล้าไปสรุปชี้ชัดว่าหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก บรรลุธรรมขั้นใด

                   ๒) ศีลาจาริยาวัตร ปฏิปทา และเมตตาธรรมของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ที่มีต่อบรรดาศิษยานุศิษย์/สาธุชนทั้งหลาย ลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากยังคงจำภาพศีลาจาริยาวัตร ปฏิปทา และความเมตตาของท่านไม่ลืมเลือน โดยเฉพาะพรที่ให้กับญาติโยมในขณะหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ขอให้เฮง ๆ จะทำการสิ่งใด ให้เจริญ ก้าวหน้า รุดหน้า ให้เฮงๆ รวยๆ ซวยๆ จงออกไป เดินทางใกล้ไกล ให้ปลอดภัย มีกำแพง ๗ ชั้น มาคุ้มครองป้องกันให้ปราศจากอันตรายใดๆ ...

                 ๓) สิ่งที่สุดยอดวิชาของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ประกอบด้วย น้ำพระพุทธมนต์, แป้งเสก, มงคลสวมศีรษะ, เชือกขบจระเข้, ผ้ายันต์, หินลับมีดลงยันต์อิติปิโสแปดทิศ, ทรายเสก, นางกวัก, วัวธนู

                ๔) ปาฏิหาริย์/ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากการนำวัตถุมงคลของท่านไปสักการบูชา ประเด็นนี้มีทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญในเจริญพระกรรมฐานและพุทธาคมของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก หลายเรื่องก็เป็นเรื่องพื้นๆ ที่เกิดขึ้นในวิถีชีวิตของคนบ้านๆ มิใช่อิทธิปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มคนพิเศษที่สังคมมองว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ มีการต่อเติมเสริมแต่งใส่สีสันลงไปมากจนกลายเป็นนิยายปรัมปราที่ยากจะเกิดขึ้นในโลกยุคปัจจุบัน

          โจทย์การนำเสนอบทความเกี่ยวกับชีวประวัติหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ในนิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ฉบับนี้ มีจุดมุ่งหมายหลักในการนำเกร็ดประวัติหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เฉพาะส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับปาฏิหาริย์ ของท่านเล่าสู่กันฟังอีกครั้งหนึ่ง เพราะปาฏิหาริย์เป็นเสมือนเครื่องปรุงรสที่ทำให้ลูกศิษย์ยุคหลังที่ไม่ทันท่าน สามารถเข้าถึงข้อมูล ทำความรู้จักกับปฏิปทา ศีลาจาริยวัตร และเมตตาธรรมของพระอริยสงฆ์แห่งดอนยายหอมมากยิ่งขึ้น

          ปาฏิหาริย์อันเป็นเรื่องคลาสสิกที่ต้องกล่าวถึงเป็นลำดับแรก หากใครไม่ทราบเรื่องนี้ คงไม่ใช่ศิษย์สายตรงของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เป็นแน่แท้ ความเดิมมีอยู่ว่า หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก มีความเชี่ยวชาญในการเจริญสมถะและวิปัสสนากรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง มีพลังจิตเข้มขลัง เชื่อกันว่าท่านสำเร็จเตโชกสิณตั้งแต่อายุพรรษายังน้อย ลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเคยได้ยินหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ กล่าวสัพยอกหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ว่า "คุณแช่มระวัง ระวังไฟไหม้กุฏินะ" เหตุที่หลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ กล่าวสัพยอกเช่นนั้นเพราะขณะที่หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เจริญพระกรรมฐานโดยการเพ่งเตโชกสิณนั้น หลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ เห็นแสงไฟสว่างไสวไปทั่วทั้งกุฏิ ทั้ง  ๆ ที่กุฏิของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก จุดเทียนไขเพียงเล่มเดียว

          เหตุสำคัญประการหนึ่งที่เป็นเสมือนการจุดประกายให้ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ในช่วงก่อนปี ๒๕๑๕ เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในหมู่ลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ มากขึ้น เหตุเกิดจากชายชาวจีนคนหนึ่งเดินทางมาที่วัดดอนยายหอมเพื่อขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ ส่วนจะไปใช้ประโยชน์อย่างใด ผู้เรียบเรียงต้องสารภาพตามตรงว่าจำไม่ได้เพราะเรื่องนี้ได้ยินจากลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ราวปี ๒๕๒๐๑ เวลาผ่านไปเกือบสี่สิบปี ต้องมีจุดเล็กจุดน้อยที่หลงลืมไปบ้าง เผอิญวันนั้น หลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ ติดกิจนิมนต์นอกวัด ชายชาวจีนผู้นั้นนั่งรอเป็นเวลานาน ทั้งไม่มีทีท่าว่าหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ จะกลับมาถึงวัดเมื่อไหร่ อารมณ์เริ่มหงุดหงิด กระสับกระส่าย แสดงออกซึ่งความร้อนรนให้เห็นอย่างชัดเจน กรรมการวัดท่านหนึ่งเห็นอาการท่าทีเช่นนั้น คิดว่าชายชาวจีนคงต้องมีความเดือดเนื้อร้อนใจไม่น้อย จึงเข้าไปสอบถามตามแบบอย่างของเจ้าบ้านผู้มีน้ำใจดีงามซึ่งหาได้ยากยิ่งในทุกวันนี้

          เมื่อทราบเหตุเดือดเนื้อร้อนใจและความจำเป็นของชายชาวจีนผู้นั้นแล้ว จึงแนะนำให้ไปขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เพราะใช้ได้เหมือนกัน ชายชาวจีนผู้นั้นมีท่าทีไม่เชื่อแต่ก็ไม่อยากขัดใจ หากหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณฺโณ กลับมาไม่ทัน จะได้ไม่เสียเที่ยว ดีกว่ากลับไปมือเปล่า จึงเดินตามกรรมการวัดคนนั้นไปที่กุฏิหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เมื่อหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ทราบจุดมุ่งหมายแล้ว จัดแจงห่มจีวรให้เรียบร้อยแล้วก้าวเดินเข้าไปในกุฏิ ยังไม่ทันก้าวพ้นธรณีประตู กรรมการวัดคนนั้นมากระซิบบอกหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ว่าให้ทำเต็มที่เพราะชายชาวจีนคนนั้นแสดงท่าทีไม่เชื่อถือ หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ไม่ได้ว่ากล่าวประการใด ยิ้มด้วยความเมตตาแล้วเดินหายเข้าไปในกุฏิราวครึ่งชั่วโมง จากนั้น จึงมอบน้ำมนต์ขวดหนึ่งมามอบให้กับชายชาวจีนผู้นั้น

         เมื่อได้น้ำมนต์สมใจ ก็กราบนมัสการลากลับ ขณะกำลังจะก้าวพ้นประตูวัดดอนยายหอม เหลือบเห็นหลวงพ่อเงิน จนฺทสุวณโณ นั่งรถกลับเข้ามาพอดี ด้วยอารามดีใจ จึงเปิดขวดเพื่อเทน้ำมนต์ทิ้ง แต่จะเทอย่างไร น้ำมนต์ก็ไม่ยอมไหลออกจากขวด ชายชาวจีนผู้นั้นถึงกับตะลึงและกล่าวกับผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ในวันนั้นว่า หลวงพ่อองค์เล็กก็เก่งเหมือนกัน นับแต่นั้นมา ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

          อีกเรื่องหนึ่งที่มีการเผยแพร่กันในโลกออนไลน์ คือ การสยบม้าพยศด้วยเมตตาจิต เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี ๒๕๒๘ เหตุเกิดขณะที่คุณวิสิทธิ์ เจริญอิทธิกุล นักเขียนหน้าใหม่ของนิตยสารพระเครื่องฉบับหนึ่งในยุคสมัยนั้น เดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เพื่อสัมภาษณ์และขอประวัติของท่านไปเผยแพร่ในนิตยสารพระเครื่องดังกล่าว ขณะนั้น มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาตามหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ให้ไปที่หลังวัดด่วน คุณวิสิทธิ์ เจริญอิทธิกุล เขียนบรรยายว่า ตอนนั้น ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะมัวแต่สัมภาษณ์ญาติโยมอย่างเพลิดเพลิน สักครู่ คุณฮึกหาญ ประวัติโยธิน ตะโกนเรียกให้นำกล้องไปถ่ายภาพสำคัญที่น้อยคนจะมีโอกาสได้พบเห็น สาระสำคัญโดยสรุปของเรื่องนี้ คือ เมื่อไปถึงลานหลังวัดก็เห็นภาพม้ารูปร่างเปรียวกำลังพยศสุดฤทธิ์สุดเดช คนขี่ม้าพยายามอย่างไรก็เอาไม่อยู่ หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ยืนสงบนิ่งเพ่งมองเจ้าสำลี ม้าพยศตัวนั้นด้วยความเมตตายิ่ง แต่เจ้ากำไลยังคลุ้มคลั่ง พยศหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง เดินปรี่เข้าหาหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เดินเข้าใกล้จนชาวบ้านในที่นั้น หวาดกลัวเกรงว่าท่านจะได้รับอันตราย เพราะสองขาหน้าของมันยกขึ้นสูง ห่างจากหลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก ไม่ถึง ๒ เมตร แต่ท่านยังคงยืนสงบนิ่ง ก้มหน้าเพ่งมองพื้นดิน ลักษณะอาการคล้ายกับว่ากำลังแผ่เมตตาหรือภาวนาอะไรสักอย่าง จากนั้น ค่อยๆ ยกมือขึ้นในระดับเดียวกับใบหน้าของท่าน เหตุมหัศจรรย์เกิดขึ้นในฉับพลัน เจ้ากำไลคลายพยศ  ทรุดตัวลงกับพื้น ก้มหัวแทบเท้าหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เสมือนหนึ่งว่าเป็นการขอขมาลาโทษต่อการกระทำที่ไม่บังควรของตน

          เมื่อเจ้าสำลีละพยศลงแล้ว คุณวิสิทธิ์ เจริญอิทธิกุล ขอให้เจ้าของม้าบอกให้มันแสดงความเคารพหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก อีกครั้งหนึ่งเพื่อขอบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน คราวนี้ เพียงแค่เจ้าของม้าบอกว่า กำไล กราบหลวงพ่อ เจ้ากำไลทรุดตัวลงแทบเท้าท่านทันที หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ยืนมองด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมด้วยแววตาที่เมตตายิ่ง และพูดว่า "ดีจ๊ะ ดีจ๊ะ" ม้าพยศที่เพิ่งออกฤทธิ์ออกเดชด้วยความเมามันเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านพ้นไป เปลี่ยนไปเป็นม้าแสนรู้แบบเหลือเชื่อ และทำทุกครั้งที่บอกให้กราบหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก

          นอกจากเรื่องทั้งสามดังกล่าวแล้ว มีอีกหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ล่วงรู้เหตุการณ์ในวันข้างหน้า หลายคนเคยคิดว่าหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ทักผิดหรือไม่ก็คงจำผิด สิ่งที่ท่านทักไม่ใช่ความเป็นจริงของบุคคลที่ท่านทักในวินาทีนั้น แต่สุดท้าย เรื่องนั้นมักกลายเป็นจริงเหมือนดั่งที่ท่านเคยทักไว้ เรื่องแบบนี้เคยเกิดกับผู้เรียบเรียงสองครั้ง ครั้งแรกในราวปี ๒๕๒๔ ผู้เรียบเรียงไปกราบนมัสการท่านตามปกติ วันนั้น หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ถามว่าวันนี้ มนตรี ไม่มาด้วยหรือ ตอนนั้นใจคิดเพียงแต่ว่าท่านคงจำผิด เลยกราบเรียนท่านไปว่ามนตรีเป็นใคร ผมไม่รู้จัก หลังจากนั้น ได้พบกับคุณมนตรี แก้วพิจิตร โดยบังเอิญในงานประกวดพระเครื่องที่สมาคมตั้งศรี จ.นครปฐม ทั้งยังสนิทสนมและคบหากันมาถึงทุกวันนี้

          เรื่องที่สอง ปลายปี ๒๕๓๒  ตอนนั้นเพิ่งโอนไปรับราชการที่กรมแรงงานใหม่ๆ เป็นครั้งแรกที่ต้องใส่ชุดข้าราชการ เพราะรับราชการอยู่ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ไม่มีระเบียบปฏิบัติให้ใส่ชุดข้าราชการไปทำงาน จึงถือโอกาสนำเครื่องยศประดับบ่าขึ้นไปให้ท่านช่วยเจิมให้ หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เจิมไปให้พรไปว่า ขอให้เฮงๆ รวยๆ ทำมาค้าขึ้น ร่ำรวยเงินทอง ไม่มีข้อควรใดเกี่ยวเนื่องกับการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ เลยกระซิบบอกหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ช่วยให้พรเกี่ยวกับหน้าที่การงานบ้าง แต่ท่านยังคงให้พรเหมือนเดิม ไม่ยอมเปลี่ยน หลังจากนั้นสองปี ผู้เรียบเรียงมีมูลเหตุจูงใจให้ลาออกจากราชการไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งด้วยอัตราเงินเดือนสูงกว่าเงินเดือนที่ได้รับราชการตอนนั้นสามเท่า และอีกหนึ่งปีถัดไป ถูกซื้อตัวไปเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง

          คุณศราวุธ ฤกษ์ล้วน สายตรงพระเครื่องวัดดอนยายหอมคนสำคัญในยุคสมัยนี้เล่าว่า พ่อของเพื่อนคนหนึ่งมีชื่อว่าแขก สมัยหนุ่มๆ ชอบซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนไปกราบนมัสการหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เป็นประจำ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านเรียกเข้าไปหา เสี่ยๆ เข้ามาซิเสี่ย คุณแขกบอกท่านว่าเสี่ยอะไรครับหลวงพ่อ รถยังไม่มี ต้องอาศัยเพื่อนมา หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก พูดด้วยความเมตตาว่าเสี่ย ก็เสี่ยสิน่า เดี่ยวก็ได้เป็น ทุกวันนี้ เสี่ยแขกเป็นเจ้าของโรงงานถุงพลาสติก มีฐานะร่ำรวยมากคนหนึ่ง

          อีกเรื่องหนึ่ง สามีภรรยาคู่หนึ่งไปกราบนมัสการหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เป็นประจำ ครั้งแรกที่พบท่าน หลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก อยู่ที่ข้างศาลากรรมฐาน เลยนั่งกราบนั่งไหว้กันตรงนั้น พูดคุยทักทายกันสักครู่ หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ก็หยิบผ้ายันต์พันเชือกขบจรเข้มาให้พร้อมทั้งกำชับว่าเก็บไว้ให้ลูกชาย ชายผู้เป็นสามีตอบว่ายังไม่มีลูกเลยครับหลวงพ่อ ท่านยังย้ำเช่นเดิมว่าเก็บไว้ให้ลูกชาย หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน จึงรู้ว่าภรรยาตั้งท้องและต่อมาคลอดลูกชายเหมือนดั่งที่หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ทักไว้

          เรื่องการทักทายลูกศิษย์ลูกหาทั้งสี่เรื่องที่นำเสนอ จะให้ความเห็นแบบฟันธงชี้ชัดลงไปว่าหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เป็นพระอริยสงฆ์ผู้หยั่งรู้ในอนาคตังสญาณหรือไม่นั้น คงเป็นเรื่องยากเกินภูมิปัญญาปุถุชนคนธรรมดาอย่างผู้เรียบเรียงที่จักกระทำเช่นนั้น คงมีแต่เรื่องเล่าเพิ่มเติมอันเป็นที่มาของภาพประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญยิ่งของพระอริยสงฆ์สองรูป ภาพนั้นเป็นภาพที่หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก เดินไปเปิดประตู จูงหลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข ลงจากรถตู้ที่หน้ากุฏิของท่าน เล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นภาพที่บันทึกในคราวที่หลวงปู่บุดดา ถาวโร เดินทางมาบอกลาหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ก่อนหลวงปู่บุดดา ถาวโร ละสังขารไม่นานนัก การเดินทางมาในวันนั้น หลวงปู่บุดดา ถาวโร มิได้นัดหมายหรือโทรแจ้งล่วงหน้า แต่หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก มานั่งรอที่หน้ากุฏิก่อนที่รถหลวงปู่บุดดา ถาวโร จะมาถึงไม่กี่นาที

           ในภาคปาฏิหาริย์ของพระอริยสงฆ์แห่งดอนยายหอม ภิกษุผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม ยังมีอีกมากที่ไม่ได้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ทุกเรื่องตราตรึงอยู่ในความทรงจำของบรรดาลูกศิษย์ลูกทั้งหลายทั้งปวงที่มีโอกาสกราบนมัสการและได้สัมผัสกับปฏิปทาของพระอริยสงฆ์ผู้เป็นหนึ่งในญาติกาพระเกจิอาจารย์นักพัฒนาแห่งดอนยายหอมด้วยตนเอง มิใช่คนยุคหลังที่เพียงแค่ได้ฟังเรื่องที่เขาเล่าสืบต่อกันมา ความรู้สึกและอรรถรสที่เกิดขึ้นย่อมแตกต่างกันเป็นอันมาก ท้ายนี้ คงต้องเปิดฉากด้วยเรื่องการรู้วันละสังขารของตัวท่านเอง ก่อนหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ละสังขารสองสามเดือน เฮียบ๊วย บ้านอยู่แถวสี่แยกบ้านแขก ฝั่งธนบุรี ปกติเฮียบ๊วยคนนี้มักเดินทางไปกราบนมัสการหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ประมาณสองเดือนครั้ง ในครั้งสุดท้าย หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก พูดกับเฮียบ๊วยว่ารอบนี้อย่าทิ้งช่วงไปนานนะ เดี๋ยวจะไม่ได้เจอกัน แต่ด้วยเหตุที่เฮียบ๊วยมีเหตุจำเป็นต้องไปทำธุระต่างจังหวัด เลยเว้นระยะไปนานกว่า ๔ เดือน กลับมาอีกครั้ง หลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก ก็ละสังขารไปแล้ว

           เรื่องราวต่างๆ ที่นำเสนอ เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในชีวประวัติของหลวงพ่อแช่ม ฐานุสฺสโก หนึ่งในพระอริยสงฆ์ยุคหลังกึ่งพุทธกาลเพียงไม่กี่รูปที่ละสังขารในอิริยาบถที่คล้ายคลึงกับพระพุทธรูปปางปรินิพพาน หากประเด็นใดที่นำเสนอไปแล้ว ก่อให้เกิดกรรมอันเป็นการล่วงละเมิดพระอริยสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งที่กล่าวอ้างถึงในบทความตอนนี้ ผู้เรียบเรียงกราบขอขมาพระอริยสงฆ์รูปนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ ณ กาลบัดนี้