แชร์

พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ตำนานยอดพระเครื่องเมืองหลังสวน (๑๒/๒๔)

อัพเดทล่าสุด: 16 ธ.ค. 2024
21 ผู้เข้าชม

พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน: ตำนานยอดพระเครื่องเมืองหลังสวน (๑๒/๒๔)

 โดย.......ชายนำ ภาววิมล.......

              การเป่าทองเข้าตัวเป็นสุดยอดวิชาหลักอีกวิชาหนึ่งที่ทำให้ชื่อเกียรติคุณของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม กลับมาเป็นที่รู้จักในวงการพระเครื่องยุคใหม่อีกครั้งหลังจากที่เงียบหายไปนานเกือบยี่สิบปี การเป่าทองเข้าตัวของท่านแตกต่างจากพระเกจิอาจารย์ทั่วไป ความแตกต่างทั้งวิธีการเป่าทองเข้าตัวและอุปเท่ห์ที่เกิดขึ้นจากการเป่าทองเข้าตัว แม้นท่านละสังขารไปนานเกือบยี่สิบปี (ละสังขารวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๓๙) ประสบการณ์ที่เกิดจากการเป่าทองเข้าตัวยังคงตราตรึงในความทรงจำของลูกศิษย์คนสำคัญหลายคน เป็นความทรงจำในเมตตาธรรมและกรุณาธิคุณของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ที่ทำให้ชีวิตของคนเหล่านั้น เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ประสบการณ์ที่ผู้เรียบเรียงประสบพบเหตุด้วยตนเองหลังจากที่เดินทางกลับจากวัดถ้ำเขาเงินในปี ๒๕๓๖ ซึ่งเป็นครั้งที่สองที่ท่านทำพิธีเป่าทองเข้าตัวให้กับผู้เรียบเรียงในคืนวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๖ (วันเสาร์ห้า ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕) หัวค่ำวันนั้น พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม บอกให้ผู้เรียบเรียงนำเหรียญเสมารูปเหมือนพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม และเหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ เนื้อพิเศษทั้งหมด ติดตามท่านไปเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดแห่งหนึ่งในเขตอำเภอหลังสวน เป็นเวลานานประมาณ ๒ ชั่วโมง แล้วค่อยกลับมาทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้งที่ศาลาเอนกประสงค์ วัดถ้ำเขาเงิน

             เสร็จจากพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวแล้ว ท่านเรียกให้ผู้เรียบเรียงเข้าไปหาท่านและทำพิธีเป่าทองเข้าตัวให้โดยที่ผู้เรียกเรียงมิได้ร้องขอแต่ประการใด การเดินทางไปกราบนมัสการท่านในครั้งนั้น ผู้เรียบเรียงมีเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวกับรายรับของบริษัทที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานนัก ท่านเรียกให้เข้าไปเป่าทองเข้าตัว ก็เข้าไปหาท่านโดยมิได้สอบถามอะไรจากท่าน คิดแต่ว่าท่านเมตตาเราก็เท่านั้น กลับมาถึงกรุงเทพมหานครในเย็นนั้น ก็ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น เช้าวันจันทร์เข้าไปถึงบริษัทไม่ถึงชั่วโมง ก็มีนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันในหลักสูตรการฝึกอบรมด้านธุรกิจสังหาริมทรัพย์ มาชวนให้ไปร่วมงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทที่จะตั้งขึ้นใหม่ เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นจุดหักเหที่ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

             ด้านประสบการณ์เกี่ยวกับพระเครื่องของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ก็มีมากมายเหลือคณานับเช่นกัน แม้แต่นักนิยมพระเครื่องอาวุโสท่านหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพระเนื้อดิน มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับจุฑาธวัช อินทรสุขศรี อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน ทั้งเป็นนักเขียนอาวุโสคนดังในนิตยสารพระเครื่องหลายฉบับเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ยังให้การยอมรับและเชื่อมั่นในพลานุภาพของพระปิดตามหาลาภองค์น้อยเป็นอย่างยิ่ง นักนิยมพระเครื่องคนนั้นเล่าให้ฟังว่า "ภรรยาของเขาได้ยินกิตติศัพท์ว่าพระปิดตามหาลาภองค์น้อยของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม มี พลานุภาพโดดเด่นทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภก็เยี่ยมยอดเช่นกัน จึงขอให้ช่วยหาพระปิดตามหาลาภองค์น้อยให้สักองค์ ตามภาษาเซียนใหญ่ในวงการพระเครื่องที่นิยมชมชอบแต่พระกรุพระเก่า จึงไม่ได้ให้ความสนใจกับคำขอร้องของภรรยา ทั้งยังพูดสำทับไปว่า ไปสนใจพระใหม่ทำไม พระกรุพระเก่ามีมากมายหลายองค์ ชอบองค์ไหนก็หยิบไปเลี่ยมทองห้อยคอก็แล้วกัน จากนั้น ไม่ได้สนใจถามไถ่ถึงเรื่องนี้อีกเลย  ต่อมาไม่นาน ภรรยาของเซียนใหญ่คนนั้น นำพระปิดตามหาลาภองค์น้อยในตลับทองอย่างงามมาอวดและนำมาห้อยคอทันที เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ภรรยาของเซียนใหญ่คนนั้น ได้รับทุนไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงวาระและมีคนที่เหมาะสมกว่า ๓ - ๔ คน ประสบการณ์นี้ทำให้เซียนใหญ่คนนั้นเชื่อมั่นในพลานุภาพของพระปิดตามหาลาภองค์น้อยเป็นอันมาก และฝากให้ผู้เรียบเรียงไปเช่าบูชาพระปิดตามหาลาภองค์น้อยมาเลี่ยมทองให้ลูกๆ ไว้ห้อยคอติดตัวอีก ๔ องค์"

              นอกจากประสบการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว ยังมีหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงฌานสมาบัติ ศีลาจริยาวัตรปฏิปทาที่น่าเคารพเลื่อมใสของพระเกจิอาจารย์ที่มีบทบาทสำคัญในตำนานยอดพระเครื่องเมืองหลังสวน อาทิ วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๙ พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม รับนิมนต์มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกในงานพุทธาภิเษกพระเครื่องรุ่นหนึ่งในกรุงเทพมหานคร พิธีฯ นี้ คณะผู้จัดสร้างจัดเตรียมจตุปัจจัยถวายพระเกจิอาจารย์ที่เมตตามาร่วมพิธีฯ ซองละ ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ถือปฏิบัติกันในห้วงเวลานั้นมาก สำหรับพระเกจิอาจารย์ที่เดินทางมาจากจังหวัดไกลๆ ก็จักถวาย ๒ ซอง รวมเป็นเงิน ๔,๐๐๐ บาท อย่าว่าแต่พระเกจิอาจารย์ที่มาจากเดินทางมาจากทางไกลเลย แค่ปริมณฑล เงิน ๒,๐๐๐ บาท แทบไม่พอกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาร่วมพิธีฯ ไม่ต้องบวกลบคูณหารให้เสียเวลา เห็นกันชัดๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยว่าพระเกจิอาจารย์หลายรูปต้องชักเนื้อแน่ๆ  รูปใดที่ได้สองซอง ก็ยังพอทำเนา รูปใดได้ซองเดียวเพราะผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดเตรียมซอง ไม่รู้รายละเอียดของพระเกจิอาจารย์แต่ละรูปว่าท่านมาจากจังหวัดใด เดินทางกันมาอย่างไร เวลาถวายซองก็สักแต่ทำเพื่อให้งานเสร็จ โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา

              ผู้ติดตามของพระเกจิอาจารย์หลายรูปกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดของพระเกจิอาจารย์แต่ละรูปที่คณะจัดสร้างขอร้องไหว้วานให้เป็นธุระในการนิมนต์ฯ ว่า ผู้จัดสร้างใส่ซองถวายเพียง ๒,๐๐๐ บาท และไม่ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามสัญญา ลูกศิษย์ของพระเกจิอาจารย์เหล่านั้น บางคนก็นิ่งเฉย บางคนก็ตามไปทวง คนไหนเสียงดังก็ได้ซองเพิ่มมาอีกหนึ่งซอง เผอิญตอนนั้น พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม กลับไปก่อน ผู้เรียบเรียงซึ่งเป็นคนที่คณะผู้จัดสร้างไหว้วานให้เป็นธุระในการนิมนต์พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม จึงไปถามกับผู้จัดสร้างว่าถวายค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้พ่อท่านคล้อย ฐานธมโม หรือไม่ หากไม่ติดขัดอะไร ควรออกค่าเครื่องบินให้ครบ มิใช่เหมาจ่ายแบบนี้ ผู้จัดสร้างคนนั้นบ่ายเบี่ยงและโยนกลองให้ไปถามพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ดูว่าได้ครบหรือไม่ ถ้าไม่พอก็ให้มาเบิกใหม่

              ตกเย็น ผู้เรียบเรียงไปกราบนมัสการพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ที่บ้านคุณคงศักดิ์ เทพกวีพิทักษ์ เพื่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ท่านฟัง พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ไม่ว่ากล่าวอะไร ได้แต่ยิ้ม ๆ ทำอย่างไรก็ไม่ตอบ แค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นไร การแสดงออกและท่าทีของท่านครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่โน้มนำให้ลูกศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เคารพศรัทธาท่านมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นผู้เรียบเรียงพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับผู้จัดสร้างหลายครั้ง แต่โทรศัพท์ของผู้จัดสร้างเหล่านั้นไม่เคยติดเลย ผิดกับตอนก่อนพิธีฯ ช่วงนั้นติดต่อง่ายมาก ฝากข้อความก็โทรกลับทันที เสร็จงานก็ยุติการติดต่อกับทุกคนเพื่อหนีปัญหาที่ตนสร้างไว้ ปล่อยให้คนที่ช่วยออกหน้าแทนด้วยเหตุใดก็ตามแต่ ต้องเสื่อมเสียโดยไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการลงทุนของกลุ่มพุทธพาณิชย์กลุ่มนี้

             ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในพิธีเททองหล่อพระพุทธฐานธรรมหิรัญบรรพต พระประธานในพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดถ้ำเขาเงิน เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๓ บรรดาลูกศิษย์ของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม เรียกร้องให้ท่านหุงข้าวเหนียวดำตามตำรับสำนักเขาอ้อ พ่อท่านคล้อย  ฐานธมฺโม ขัดศรัทธาและเสียงเรียกร้องของลูกศิษย์มิได้ จึงมอบหมายให้สุธน ศรีหิรัญ เป็นผู้นิมนต์พระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อมาร่วมพิธีฯ ทั้งเน้นย้ำให้นิมนต์พระครูกาชาด (บุญทอง เขมทตฺโต) เจ้าอาวาสวัดดอนศาลามาเป็นประธานพิธีหุงข้าวเหนียวดำให้ได้ ทั้ง ๆ ที่พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ก็ศึกษาเรียนรู้และสามารถทำได้ด้วยตนเอง เมื่อทำพิธีหุงข้าวเหนียวดำแล้วเสร็จ พระครูกาชาดทำการป้อนข้าวเหนียวดำให้ผู้ที่มาร่วมงานเป็นปฐมฤกษ์ แล้วหันมาพูดกับพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ว่า "ท่านคล้อยก็หุงเองได้ ต่อไปก็หุงเองเถิด ไม่ต้องให้ผมมาทำพิธีให้หรอก...." เมื่อพระครูกาชาดกล่าวอนุญาตเช่นนี้ พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม จึงทำพิธีหุงข้าวเหนียวดำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เหตุที่ท่านไม่ยอมหุงข้าวเหนียวดำตั้งแต่แรกก็เพราะเคารพและให้เกียรติพระครูกาชาดซึ่งเป็นผู้นำศิษย์สายเขาอ้อทั้งหมดในยุคนั้น

              ในพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งปวเรศเขาเงิน เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๗ ขณะที่ลูกศิษย์สองสามคนกำลังง่วนอยู่กับการตอกโค้ดพระกริ่งปวเรศเขาเงิน พระชัยวัฒน์ประทานพร และเหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ รุ่นที่ระลึกสร้างตึกฐานธมฺโม โรงพยาบาลหลังสวน ในบริเวณศาลาอเนกประสงค์ที่พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม นั่งรับแขกเป็นประจำ ท่านกระซิบกับประพาส กุลมงคล ศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งซึ่งนั่งตอกโค้ดอยู่ข้างๆ ว่า "วันนี้ มีลูกศิษย์และบุคคลภายนอกมากราบนมัสการท่านหลายคณะ ทำอะไรอย่าประมาท ให้ระวังไว้บ้าง" ตอนนั้น ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาตอกโค้ดกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด ประพาส กุลมงคล เป็นอีกคนหนึ่งที่ช่วยงานแบบเกินร้อย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรไลออนส์เมืองเอกซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดสร้างพระเครื่องชุดนี้เลย และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น คงเป็นการเตือนตามปกติ จึงตอกโค้ดต่อไปเรื่อย ๆ โดยมิได้บอกกล่าวกับผู้ใด อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด ไม่มีอะไรมาห้ามได้ พระชัยวัฒน์ประทานพร เนื้อทองคำ ที่ยังไม่ได้ตอกโค้ดหายไปถุง ประมาณ ๕๐ องค์ มูลค่า ๑๒๕,๐๐๐ บาท (ประเมินค่าเสียหาย ตามอัตราค่าบูชาที่เปิดจองในขณะนั้น) โดยที่ผู้เรียบเรียงและลูกศิษย์ที่ช่วยตอกโค้ดไม่ทราบว่าพระชัยวัฒน์ประทานพรชุดนั้น หายไปไหนหายไปตอนไหนและหายไปได้อย่างไร เมื่อเหตุนี้เกิดขึ้น พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม กล่าวกับผู้เรียบเรียงในทำนองว่าพระชัยวัฒน์ประทานพรทั้ง ๕๐ องค์น่าจะหายไปอยู่ที่กรุงเทพมหานครแล้ว

             การที่พระชัยวัฒน์ประทานพรเนื้อทองคำ หายไปถึง ๕๐ องค์ภายในวัดถ้ำเขาเงิน ทำให้พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ไม่สบายใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะได้เตือนแล้ว จำต้องวางอุเบกขา เพราะเป็นคราวเคราะห์และวิบากกรรมของผู้เรียบเรียงซึ่งเป็นผู้ประสานงานในการจัดสร้างพระกริ่งปวเรศเขาเงินในครั้งนั้น คิดในเชิงบวก หากไม่พบเหตุการณ์นี้ อาจมีปัญหาอื่นที่ร้ายแรงกว่า อย่างน้อยที่สุด พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ทราบเหตุการณ์ล่วงหน้าและเตือนผ่านบุคคลที่สามแล้ว เมื่อถึงคราวเคราะห์ อะไรก็ช่วยไม่ได้ ไม่มีผู้ใดหลีกหนีวิบากได้ ดีที่สุดเท่าที่ทำได้คือการมีสติ ยอมรับเหตุที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นได้ หากเราประมาทและไม่ระมัดระวังมากพอ ต้องรีบแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายไปโดยเร็ว หรือไม่ก็ผ่อนหนักให้เป็นเบา

             ครั้งหนึ่ง ผู้เรียบเรียงนำพระปรกใบมะขามเนื้อเงินของพระเกจิอาจารย์อาวุโสรูปหนึ่ง ฝากใส่ย่ามท่านเข้าไปร่วมในพิธีพุทธาภิเษกที่วัดแห่งหนึ่งในแถบฝั่งธนฯ เมื่อพิธีฯ เสร็จแล้ว ผู้เรียบเรียงเข้าไปขอรับพระปรกใบมะขามคืน พร้อมทั้งถามท่านว่าพระปรกใบมะขามชุดนี้เป็นอย่างไรบ้าง พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม จ้องหน้าผู้เรียบเรียงชั่วอึดใจแล้วตอบว่า "เขาทำมาดี มีแต่จิตล้วน ๆ ไม่มีไสยฯ เลย" หลังจากนั้น ผู้เรียบเรียงโทรศัพท์ทางไกลไปสอบถามข้อเท็จจริงผู้สร้างพระปรกใบมะขามชุดนี้ว่าเป็นจริงอย่างที่พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม กล่าวไว้หรือไม่ คำตอบที่ได้รับคือ พระสุปฏิปันโนรูปนี้ เน้นการอธิษฐานจิตแผ่เมตตาเป็นหลัก ไม่ใช้คาถาอาคมใด ๆ ข้อมูลทุกอย่างที่ได้มาตรงตามที่พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม กล่าวไว้ทุกประการ

            วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ทำพิธีหุงข้าวเหนียวดำตามคำเรียกร้องของลูกศิษย์หลายกลุ่ม วันนั้น หมอสมสุข คงอุไร สอบถามพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ถึงเรื่องการป้อนข้าวเหนียวดำตามตำรับเขาอ้อ ช่วงหนึ่ง หมอสมสุข คงอุไร ถามเชิงสัพยอกว่าหนังเสืออยู่ไหน พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ยิ้มและไม่ว่าอะไร เขียนรูปเสือลงไปที่พื้นศาลาอเนกประสงค์ด้วยนิ้วมือของท่าน แล้วตอบว่า "นี่ไหงหนังเสือ" หากมองกันอย่างผิวเผิน หลายท่านอาจไม่ทราบความเป็นมาและรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการหุงข้าวเหนียวดำตามตำรับเขาอ้อว่ามีความพิสดารล้ำลึกเพียงใด เริ่มจากการหาข้าวเหนียวดำ การรวบรวมว่านยาต่างๆ พิธีกรรมในการหุงซึ่งกำหนดประเภทของไม้ที่นำมาพาดเป็นกระโจม ฟืนทุกท่อนต้องมีการลงอักขระเลขยันต์ ท้ายสุดเมื่อหุงข้าวเหนียวดำเสร็จ พระเกจิอาจารย์ผู้หุงข้าวเหนียวดำ ต้องเป็นผู้ป้อนข้าวเหนียวดำที่หุงให้กับลูกศิษย์ การป้อนก็ต้องมีอุปกรณ์ประกอบเพื่อให้ดูเข้มขลัง อุปกรณ์ที่ว่านี้  คือ "หนังเสือ หนังหมี และเหล็กแหลม" เมื่อครั้งที่พระครูกาชาด (บุญทอง เขมทตฺโต) มาเป็นประธานในพิธีหุงข้าวเหนียวดำครั้งแรกของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ก็นำอุปกรณ์ทั้งสามมาด้วย

             ผู้ที่ทราบความเป็นมาของการหุงข้าวเหนียวดำ อาจมองว่าพิธีกรรมของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม เรียบง่ายตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนและไม่ใช่สาระสำคัญของการหุงข้าวเหนียวดำออกไป หมอสมสุข คงอุไร ซักถามเพื่อหาคำตอบบางอย่าง ลักษณะการตอบของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ตีความได้หลายนัยแต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยอมรับ เข้าในทำนองกระบี่อยู่ที่ใจ พูดง่าย ๆ คือ จิตเป็นตัวกำหนด อิทธิปาฎิหารย์เกิดจากจิตที่ฝึกมาดีแล้ว ไม่ได้เกิดจากหนังเสือหรืออุปกรณ์อื่นใด อุปกรณ์เป็นเพียงสื่อนำให้เกิดความเชื่อมั่น เมื่อปฏิบัติมาถึงระดับหนึ่ง อุปกรณ์ก็ไม่มีความจำเป็น เปรียบกับสตาร์ทเตอร์ในหลอดไฟฟ้า เมื่อไฟติด สตาร์ทเตอร์ก็ไม่มีส่วนในการส่องสว่างเลย

             เรื่องราวต่าง ๆ ที่หยิบยกมาเล่าสู่การฟังนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่โน้มนำท่านผู้อ่านมารู้จักกับพระสุปฏิปันโนอีกรูปหนึ่งที่ปฏิปทาและวัตรปฏิบัติที่น่าเคารพเลื่อมใส ด้านหนึ่ง พ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในพระกรรมฐานและพุทธาคมอย่างหาตัวจับยาก มีพลังจิตแก่กล้าจนลูกศิษย์หลายคนเชื่อมั่นว่าท่านสำเร็จฌานชั้นสูง ทำอะไรก็ขลังไปหมด ภาพที่ปรากฏในสายตาคนทั่วไป จึงเป็นภาพของพระเกจิอาจารย์ผู้รอบรู้และเจนจบในพระเวทวิทยาคมหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นการเป่าทองเข้าตัว การหุงข้าวเหนียวดำตามตำรับเขาอ้อ การทำน้ำมนต์ดอกบัวทอง ฯลฯ ภาพเหล่านี้ เป็นเพียงด้านหนึ่งที่คนในสังคมยุคนี้ คาดหวังว่าจะได้รับจากพระภิกษุผู้สืบต่อพระบวรพุทธศาสนา จริงอยู่ที่เปลือกนอกของพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ดูประหนึ่งว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มุ่งเน้นทางด้านไสยเวท หากใครมีโอกาสสัมผัสวิถีของพระเกจิอาจารย์ผู้สร้างตำนานยอดพระเครื่องเมืองหลังสวนรูปนี้อย่างลึกซึ้ง ย่อมตระหนักรู้ว่านี่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของพระแท้อีกรูปหนึ่ง ยังมีอีกหลายภาพที่น้อยคนจักมีโอกาสได้สัมผัสเรียนรู้จากท่าน


บทความที่เกี่ยวข้อง
หน้าปกบทความตอน ๒๐
ชีวประวัติ พระเครื่องและวัตถุมงคลพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน ชุมพร ตีพิมพ์ระหว่างปี ๒๕๕๘ - ๒๕๕๙ รวม ๒๔ ตอน
20 ม.ค. 2025
หน้าปกพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ตอนที่ ๑๙
ชีวประวัติ พระเครื่องและวัตถุมงคลพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน ชุมพร ตีพิมพ์ระหว่างปี ๒๕๕๘ - ๒๕๕๙ รวม ๒๔ ตอน
16 ม.ค. 2025
หน้าปกบทความพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม ตอนที่ ๑๘
ชีวประวัติ พระเครื่องและวัตถุมงคลพ่อท่านคล้อย ฐานธมฺโม วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน ชุมพร ตีพิมพ์ระหว่างปี ๒๕๕๘ - ๒๕๕๙ รวม ๒๔ ตอน
14 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy